ประมงจังหวัดระยอง ดึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำทะเลชายฝั่งให้อุดมสมบูรณ์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 ก.พ.ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดพันธุ์สัตว์น้ำฟื้นฟูทะเลชายฝั่งระยอง มีปลาฉลามกบ ปลาเก๋า ปลากะพง หอยหวาน และกุ้งกุลาดำ จำนวน 1 ล้านตัว มีนายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รอง ผวจ.ระยอง นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง นายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง และผู้แทน บริษัท สตาร์ ปืโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก.(มหาชน) กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวนมาก นอกจากจะมีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเป็นการฟื้นฟูและเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำทะเลชายฝั่งให้อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีการจัดตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าประมงแปรรูป ในรูปแบบ Fisherman Market@Rayong ในเทศกาลวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ด้วย เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องชาวประมงด้วย
นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง กล่าวว่า ระยอง มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลยาวกว่า 130 กม.เป็นแหล่งทรัพยากรประมงสำคัญ ที่มีพี่ชาวประมงพื้นบ้านได้ประกอบอาชีพจากการจับสัตว์น้ำ ประมาณ 2,500 ลำ มีเรือประมงพาณิชย์ ประมาณ 800 ลำ มีปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำที่จับจากธรรมชาติ ประมาณปีละ 39,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ลบ.ปัจจุบันสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจังหวัดระยอง เป็นเมืองอุตสาหกรรมทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ อจาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การแพร่ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้รับผลกระทบ เช่น การรั่วไหลของน้ำมันดิบในทะเลที่ผ่านมา ดังนั้นการฟื้นฟูทรัพยากรประมงให้กลับคืนมาให้พี่น้องชาวประมงได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่นยืน จึงจำเป็นและดำเนินการในหลากหลายกิจกรรมและหลายมิติ ซึ่งการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำดังกล่าว เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งในแผนงานการฟื้นฟูโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลระยอง และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์ชายฝั่งระยอง ได้ทำการเพาะพันธุ์และปล่อยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มประมงพื้นบ้าน โดยการสนับสนุนการสร้างธนาคารสัตว์น้ำ การสร้างแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ รวมทั้งมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประมงแปรรูป อาหารทะเลสดๆ จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ 11-12 ก.พ.นี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประมง และประชาชนในพื้นที่ด้วย.