Loading

นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่ EEC และตรวจติดตามพื้นที่ก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกสนามบินอู่ตะเภา กำชับเลขาฯ EEC เร่งเมกกะโปรเจครถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้แล้วเสร็จพร้อมโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา หวังดึงภาคอุตสาหกรรมร่วมลงทุน พื้นที่ EEC

     วันที่ 23 มิ.ย. เวลา 10.30 น. ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่ EEC  พร้อมติดตามพื้นที่ก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

      นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า โครงการ EEC เป็น megaproject ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ยอมรับว่ามีความล่าช้าบ้าง จะต้องลงมืออย่างเร่งด่วนเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรม  ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมโยง 3  สนามบิน ซึ่งโครงการนี้ควรเร่งสร้างตั้งแต่ปี 2564 แต่ติดปัญหาโควิด ทำให้ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ และพฤติกรรมหลังโควิดผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้กระทบต่อตัวเลขวงเงินที่มีการทำสัญญาไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อรองให้เกิดความชอบธรรม

      พร้อมกันนี้นายกฯ ได้สอบถามถึงความคืบหน้าสัญญาของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่า ระยะเวลา ของสัญญาที่ต่อรองไว้ดำเนินการพูดคุยให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีได้หรือไม่ และกำชับขออย่าให้ปัญหาลุกลาม เพราะหากสร้างสนามบินเสร็จแล้วรถไฟยังไม่มาก็จะเกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่าหลายๆ ฝ่ายจะมีการพูดคุยกันได้ดี

         ทางด้านนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออกว่า ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโดยเฉพาะงานด้านระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญๆ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น ก่อสร้างแล้ว 26.42% ระบบบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน ก่อสร้างแล้ว 48.41% งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสีย ก่อสร้างแล้ว 98.44% เป็นต้น ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่ร่วมทุนกับภาคเอกชนขณะนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2567 เพื่อเริ่มก่อสร้างงานสำคัญๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572 ซึ่งประมาณสิ้นเดือนกรกฎาคมจะมีข่าวดี

       นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องของ 3 สนามบิน ขอให้มาพูดคุยและทำให้ทุกๆ โครงการเดินหน้าได้ ยืนยันว่าสนามบินอู่ตะเภาเป็น megaproject ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ตนเองได้ลงพื้นที่ไปพัทยาและได้ดูเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเรี่องการจัดมหกรรมคอนเสิร์ตต่างๆ รวมถึงเรื่องของเฟสติวัลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 บอร์ด ถ้าเกิดไม่มีสนามบินก็จะทำให้ลำบากมากขึ้น ส่วนบ่ายวันนี้ จะลงพื้นที่ติดตามเรื่องของไซต์งานต่างๆ ทั้งเรื่อง Formula One ซึ่งถือว่าเป็นเมกกะโปรเจ็คระดับโลก เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 100,000 คน เพราะฉะนั้นหากประเทศไทยมี Infrastructure มารองรับส่วนนี้ได้ จะทำให้ความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยว และจะส่งผลต่อการต่อยอดให้กับเศรษฐกิจที่จะพัฒนา เนื่องจากมีหลายมิติ ไม่ได้มีเพียงมิติขนส่งคน หรือขนสินค้า แต่มีความต่อเนื่องอีกมาก

      “สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในพื้นที่ EEC ขณะนี้มีภาคเอกชนได้เข้ามาหารือกับ EEC และสนใจใช้สิทธิประโยชน์ตามประกาศสิทธิประโยชน์ฉบับใหม่อยู่กว่า 30 ราย วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.1 แสนล้านบาท ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ได้ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์ และสุขภาพ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรม BCG โดย EEC ได้ตั้งเป้าหมายดึงเม็ดเงินลงทุนจริงให้ได้ปีละ 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2567 – 2571”

Loading

ททท. สำนักงานระยอง เอาใจนักท่องเที่ยวสายมู จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยว ‘อาบน้ำเพ็ญใต้แสงจันทร์ใกล้สะดือทะเล เกาะเสม็ด จ.ระยอง’ เสริมสิริมงคล

      เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.67 ที่บริเวณร้าน Sea Horse อ่าววงเดือน เกาะเสม็ด ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออก ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยว ‘เล่าเรื่องราว point of view 9×9 มุมลับเที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตาม Strategic move 4 จุดขาย ยืนหนึ่ง เรื่องกิน สุดฟินเรื่องเที่ยว เต็มเหนี่ยวสายศรัทธา เรียนรู้เรื่องรักษ์ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หรือยังไม่เป็นที่นิยม โดยได้มีการเปิดเวที ‘เล่าเรื่องราว point of view 9×9 มุมลับเที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก’ จาก 7 กูรู ประกอบด้วย นายมรกต สุดดี ผอ. กองการตลาดภาคตะวันออก นางวันดี เผื่อนอุดม ผอ. ททท. สำนักงานนครนายก นายวัชรพล สารสอน ผอ. ททท. สำนักงานระยอง นายจิระศักดิ์ อ่วมอุไร ผอ. ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา นายกรกฎ โอภาส ผอ. ททท. สำนักงานตราด น.ส.อุไร มุกประดับทอง ผอ. ททท. สำนักงานพัทยา น.ส.เพ็ญสุดา โพธิ์เงิน ผอ. ททท. สำนักงานจันทบุรี และนายสมชาย ชมภูน้อย ผอ. ททท. ภูมิภาค ภาคตะวันออก

       นอกจากนี้ในงาน ททท.สำนักงานระยอง ยังมีการจัด Gimmick เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวสายศรัทธา หรือสายมูเตลูด้วย เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต และกระตุ้นท่องเที่ยว โดยมีพิธีกรรม ‘อาบน้ำเพ็ญใต้แสงจันทร์ใกล้สะดือทะเล หวานตะวันออก@เกาะแก้วพิสดาร’ โดยได้จัดให้มีพิธีพราหมณ์บวงสรวง อาหารคาวหวานเครื่องสังเวยสักการะพระอุปคุต พระประจำมหาสมุทร และโปรยดอกไม้ ก่อนที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้ร่วมกันเดินลงทะเลอาบน้ำเพ็ญ ภายใต้พระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำ

         นายวัชรพล เปิดเผยว่า กิจกรรมอาบน้ำเพ็ญใต้แสงจันทร์ดังกล่าว จะจัดขึ้นเดือนละครั้ง โดยเฉพาะวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งจะเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะมีองค์ประกอบเรื่องของพระจันทร์ มีการตั้งโต๊ะบูชาบวงสรวง มีพระอุปคุตที่เชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนา ฉะนั้นการอาบน้ำเพ็ญใต้แสงจันทร์ จึงเชื่อมโยงกับสะดือทะเล ความเชื่อกับการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต และสร้างพลังให้กับชีวิตได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเกาะเสม็ด เป็นจุดหนึ่งที่อยู่ในบริเวณของสะดือทะเล โดยจุดหลักๆ จะอยู่ทางใต้ของเกาะ คือ อ่าววงเดือน อ่าวปะการัง ออกฝั่งไปประมาณ 2 กม. บริเวณอ่าววงเดือนแห่งนี้อยู่ตรงกลางของเกาะเสม็ด เป็นจุดที่พราหมณ์เลือกทำพิธีกรรม ซึ่งเหมาะสมมองเห็นพระจันทร์เต็มดวงได้ชัดเจน ทั้งนี้การอาบน้ำเพ็ญใต้แสงจันทร์ดังกล่าว ททท.สำนักงานระยอง และ ททท ภูมิภาคภาคตะวันออก จัดขึ้นในวันนี้มีสื่อมวลชนจากส่วนกลาง และจังหวัดระยอง ได้มาร่วมพิธีตามความเชื่อในการได้ชำระสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย จึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ศรัทธาในความเชื่อดังกล่าวอยากให้มาร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยสามารถติดตามทางเพจ ททท.สำนักงานระยอง ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

Loading

สมาคมวิทยุกระจายเสียงระยอง เดินหน้ารณรงค์ให้วัดในระยองปลอดบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า มุ่งส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ ฆราวาส และนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญและเที่ยวชมวัดใน จ.ระยอง

      เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย.67 ที่ศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายไออาร์พีซี ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นพ.วันชัย นนทกิจไพศาล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการขับเคลื่อนโครงการ ‘วัดในจังหวัดระยองปลอดบุหรี่และบุหรี่’ มีสื่อมวลชนทุกแขนงใน จ.ระยอง เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมวิทยุกระจายเสียงระยอง และคณะสงฆ์จังหวัดระยอง ภายในงานมีการบรรยายเรื่องพิษภัย สถานการณ์ กฎหมายการควบคุมบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า มีนายพิภพ เมืองศิริ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมบรรยายให้ความรู้แก่สื่อมวลชน มีนายอัครชัย เดชมูล นายกสมาคมวิทยุกระจายเสียงระยอง ร่วมเป็นเกียรติ ทั้งนี้มีวัตถุมุ่งให้สื่อมวลชนเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายโครงการวัดเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เช่น ปิดป้ายและประชาสัมพันธ์ให้วัดเป็นที่ปลอดบุหรี่ฯ เฝ้าระวังไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในวัด ประชาสัมพันธ์ให้วัดเป็นที่ปลอดบุหรี่ฯ และไม่มีการสูบบุหรี่ในงานเลี้ยงในวัดอย่างทั่วถึง

      สำหรับ จ.ระยอง มีวัดและที่พักสงฆ์ 276 วัด มีพระสงฆ์ จำนวน 900 รูป ยังมีอัตราการสูบบุหรี่ในพระสูงอยู่ เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์ ฆราวาส ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาทำบุญ เที่ยวชมวัดทุกวัดใน จ.ระยอง ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และปลอดภัยจากควันบุหรี่ ทางสมาคมวิทยุกระจายเสียงระยอง จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งเป็นสถานที่พัฒนาจิตใจ สังคม ประเพณี วัฒนธรรม เพื่อสุขภาพที่ดีของ ประชาชน ครอบครัว และชุมชนด้วย รวมถึงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 2560 อย่างเคร่งครัด จะช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับ ประชาชนและช่วยให้พระที่สูบบุหรี่ได้เลิกบุหรี่ได้สำเร็จ เพื่อสุขภาพและต้นแบบที่ดีต่อไป.

Loading

 อบจ.ระยอง จับมือสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง เปิดการแข่งขันกีฬาท้องถิ่น ‘มหกรรมกีฬาระยองเกมส์ ประจำปี 2567 Rayong Game 2024’ อย่างยิ่งใหญ่ มุ่งสร้างประสบการณ์ในการแข่งขันกีฬา ส่งเสริมการออกกำลังกาย ห่างไกลยาเสพติด สุขภาพแข็งแรง ตลอดจนสร้างมิตรภาพน้ำใจของนักกีฬาด้วย

     เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.67 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาท้องถิ่น ‘มหกรรมกีฬาระยอง เกมส์ ประจำปี 2567 หรือ Rayong Game 2024’ ซึ่งจัดขึ้นโดย อบจ.ระยอง และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง มีนายวิเชียร แสงวงศ์กิจ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง คณะกรรมการสมาคมฯ และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันฯ

     โดยมีขบวนพาเหรดนำนักกีฬา แล  อสม.ระยองกว่า 1,200 คน เข้าสู่สนาม  มีการแสดงดนตรี การแสดงโชว์ของนักกีฬา นักเรียนมัธยมตากสินระยอง และการเต้นออกกำลังกายของ อสม.ระยอง โดยมี นายปิยะ  ปิตุเตชะ ร่วมเต้นเป็นการสร้างสีสันในพิธีเปิด พร้อมมีการจุดพลุ และจุดคบเพลิงเริ่มการแข่งขันกีฬา ‘มหกรรมกีฬาระยองเกมส์ 2024’ อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกีฬาที่ใช้แข่งขัน 27 ชนิดกีฬา  ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างประสบการณ์ในการแข่งขันกีฬา และส่งเสริมการออกกำลังกายห่างไกลยาเสพติด มีสุขภาพแข็งแรง ตลอดจนสร้างมิตรภาพน้ำใจนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขัน และความสามัคคีของชาว จ.ระยอง..000

Loading

จ.ระยอง มอบกล้าไม้ให้กับส่วนราชการ และเครือข่าย ทสม. นำไปปลูก ใน ‘โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567’

     เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 มิ.ย.67 ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง เป็นประธานในพิธีมอบกล้าไม้ ประกอบด้วย ต้นสารภีทะเล และประดู่ป่าให้กับส่วนราชการจังหวัด และเครือข่าย ทสม.ระยอง นำไปปลูกใน ‘โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567’

       ทั้งนี้ โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าฯ เป็นโครงการที่ช่วยคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อีกทั้งเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้กับบุคลากร ตลอดจนประชาชน ได้รับทราบเพื่อก่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายและการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น.

Loading

ทต.ทับมา เปิดอบรมโครงการขับรถตามกฎช่วยลดอุบัติเหตุ มุ่งเสริมสร้างวินัยจราจรแก่ ประชาชนอันจะเป็นแนวทางในการปรับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.67 ที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการขับรถตามกฎช่วยลดอุบัติเหตุ ประจำปีงบประมาณ 2567 มี ประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 50 ราย มีการบรรยายให้ความรู้กฎหมายจราจร เทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถ พื้นฐานการขับขี่รถอย่างปลอดภัย และการฝึกหัดขับขี่รถที่ถูกวิธี และการลงนาม MOU ส่งเสริมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย

       โดยโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร กฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ และเสริมสร้างวินัยการจราจรอันเป็นแนวทางในการปรับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถ และพื้นฐานการขับขี่อย่างปลอดภัย และถูกวิธีลดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต และร่างกาย และลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่อีกด้วย.

Loading

บ.บีแอลซีพี เพาเวอร์ จก.จับมือโรงเรียนใน จ.ระยอง จัดโครงการ ‘พอร์ตดีมีที่เรียนกับบีแอลซีพี’ เติมความรู้เด็กนักเรียน ม. 4-6 ทำ Portfolio มุ่งหวังส่งเสริมอนาคตทางการศึกษาให้นักเรียน เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.67 ที่หอประชุมโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง นายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดเปิดโครงการ ‘พอร์ตดีมีที่เรียนกับบีแอลซีพี’ ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดย บ.บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด มีนายอดิศร วังมูล ผู้อำนวยการสายงานบริหารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด นายวิชัย ยิ่งประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ร่วมโครงการฯ มีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เข้าร่วมโครงการ ภายในงานมีการอบรม ‘Portfolio’ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้รู้จักรวบรวมผลงาน ประสบการณ์ และความสำเร็จ นำเสนอตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสำหรับระบบ TCAS รวมทั้งแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาในการติวสอบ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งต่อองค์ความรู้จากพนักงานในรูปแบบ workshop ให้น้องๆ ได้สะสมผลงานตามความต้องการของมหาวิทยาลัยอีกด้วย

      นายอดิศร เปิดเผยว่า โครงการฯ ดังกล่าว มุ่งหวังเปิดโอกาสให้น้องๆ นักเรียนได้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วย โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นมีการอบรมให้ความรู้การทำ ‘Portfolio’ และความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับน้องๆ ด้วย นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีการเพิ่มความรู้สำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนสาขาวิชานิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ด้วย โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ เป็นการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้ได้ขยายให้ความรู้แก่น้องๆ ในโรงเรียนต่างๆ จาก 3 แห่ง เป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนระยองวิทยาคม ,โรงเรียนวัดป่าประดู่ ,โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร, โรงเรียนมัธยมตากสิน และโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุล ซึ่งจากการจัดทำโครงการดังกล่าวที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดี ทั้งนี้ในอนาคตทางบีแอลซีพีฯ มีแผนที่จะเปิดโอกาสให้น้องๆ นักเรียนใน จ.ระยอง ได้รับโอกาสดังกล่าวเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทำตามความฝันของตัวเองต่อไปอีกด้วย.

Loading

ตร.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง เตรียมขยายผลสืบเส้นทางยาเสพติดล็อตใหญ่ที่จับได้คาบ้าน 2 ผัวเมีย โดยนำกล้องวงจรปิดที่ผู้ต้องหาติดรอบบ้านมาตรวจหาเครือข่ายส่งยาเสพติด ยันหลักฐานแน่นแม้ผู้ต้องหาปฏิเสธ

     เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.67 ที่บริเวณด้านหน้า สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ นายวิจิตร พลาพลงาม นอภ.วังจันทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.วังจันทร์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.วังจันทร์ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ คือนายวีระ หรือระ สุวรรณเขต อายุ 40 ปี ชาว อ.วังจันทร์ จ.ระยอง และ น.ส.เอมิกา หรือโย โพธิ์มิ อายุ 26 ปี ชาว อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ทั้ง 2 เป็นสามีภรรยากัน พร้อมของกลางยาบ้า 179,097 เม็ด ยาไอซ์ 402.5 กรัม เงินสด 224,340 บาท อาวุธปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด 12 จำนวน 8 นัด กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 78 นัด กระสุนปืน ขนาด 5.56 จำนวน 33 นัด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง สมุดจดรายการซื้อยาเสพติด 1 เล่ม ถุงพลาสติกใสแบบกดปิด ดึงเปิด จำนวน 128 ใบ รถเก๋ง 1 คัน รถกระบะ 4 คัน รถ จยย.บิ๊กไบค์ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ 5,194,340 บาท หลังเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจยึดมาได้ภายในห้องนอน และถูกฝังดินไว้

      นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัว และยาเสพติด และทรัพย์สินที่ยึดมาได้เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังจันทร์ และฝ่ายปกครอง อ.วังจันทร์ ซึ่งเป็นการเข้มงวดกวดขันในเรื่องปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาขยายผลหาเครือข่าย และเส้นทางยาเสพติดต่อไป ซึ่งยาเสพติดล็อตดังกล่าวถือว่าเป็นล็อตที่ใหญ่ที่สุดที่จับได้ในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าเป็นแหล่งพักยาเสพติดก่อนรอเครือข่ายมารับ และจำหน่ายให้รายย่อยในพื้นที่

       ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นคนในพื้นที่ เคยต้องโทษเกี่ยวกับคดียาเสพติดมาหลายครั้ง เพิ่งโทษมาได้ 1 ปี โดยคาดว่านำยาเสพติดที่ตรวจยึดมาได้เป็นการนำมาพักไว้รอเครือข่ายมารับ และจำหน่ายให้รายย่อยในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลพอสมควรที่จะขยายผลต่อ รวมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดรอบบ้านมาตรวจสอบหาเครือข่ายที่มารับ-ส่งยาด้วย สำหรับผู้ต้องหาที่ยังปฏิเสธว่ายาเสพติดที่ตรวจยึดมาได้จากการที่นำไปฝังดินไว้ในสวนยางพาราหลังบ้านไม่ใช่ของตัวเองนั้น ยืนยันหลักฐานแน่นหนา โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดจะเป็นหลักฐานยืนยันว่าผู้ต้องหานำไปฝังไว้เอง ซึ่งจะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไปทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่ายาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว มีเครื่องหมายบนหีบห่อเป็นเครื่องบินไอพ่นคล้ายยาเสพติดที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.กาญจนบุรี

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหานายวีระ และ น.ส.เอมิกา มียาเสพติดดประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาไปในเมืองที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังจันทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading

จ.ระยอง จัดพิธีรับมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ต่อจากจังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดที่ 3

     เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 4 มิ.ย.ที่บริเวณปั๊มน้ำมันเอสโซ่ริมถนนสุขุมวิท ต.กองดิน ขาเข้า อ.แกลง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นำรอง ผวจ.ระยอง หน.ส่วนราชการจังหวัด และ ประชาชนชาวระยองทุกหมู่เหล่าทั้ง 8 อำเภอ รับมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ต่อจากนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.จันทบุรี ซึ่งจังหวัดระยองเป็นจังหวัดที่ 3 ต่อจากจังหวัดตราด และจันทบุรี โดย ผวจ.ระยอง ได้ถือธงนำขบวนเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ดังกล่าว จำนวน 72 ธง เคลื่อนขบวนออกจากจุด 1 ไปตามเส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าสู่ อ.แกลง ไปยังจุดที่ 2 บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์โพธิ์ทอง อ.แกลง ก่อนจะเคลื่อนขบวนจากจุดที่ 2 มุ่งหน้าผ่านตัวอำเภอแกลง ไปยังจุดที่ 3 บริเวณ อบต.วังหว้า อ.แกลง พักค้างคืน 1 คืน ซึ่งในวันรุ่งขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. จะเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปตามถนนสุขุมวิทเข้า สู่เขต อ.เมืองระยอง พักตามจุดๆ ต่าง เข้าสู่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ก่อนจะเคลื่อนขบวนเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดระยอง

      โดยในเช้าวันที่ 6 มิ.ย. จะมีกิจกรรมแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ การฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ ประชาชนได้รับชมด้วย และในช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการส่งมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้กับจังหวัดชลบุรีบริเวณพื้นที่ อ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี ต่อไป..000

Loading

อบจ.ระยอง มอบโล่เกียรติคุณแก่นักกีฬาสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดระยอง โดยสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง ส่งเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาส่งเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ 2 รายการ 8 คน

      เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ห้องประชุมสภา อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง มอบโล่เกียรติคุณแก่นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดระยองจากการที่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง ส่งเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับประเทศ 2 รายการ คือ การแข่งขันกีฬารายการ คาราเต้โด เซ้าอีสเอเชีย คาราเต้ เฟดเดอเรชั่น แชมเปี้ยนชิพ 2024 ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2567 และการแข่งขันกีฬาเทควันโด รายการ เดอะเอส เทควันโด พุมเซ่ แชมเปี้ยนชิพ 2024 ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 22-31 มี.ค.67 ที่ผ่านมา

      โดยมีนักกีฬาได้รับเหรียญรางวัลดังกล่าว 8 รางวัล ประกอบด้วย ด.ญ.รวิ พฤกษ์พนารัตน์ ชนะเลิศเหรียญทอง รุ่นต่อสู้บุคคลหญิง cadet น้ำหนักไม่เกิน 54 กก. น.ส.สิริกมลเนตร โชคประเสริฐกุล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน ประเภทต่อสู้บุคคลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เหรียญทองแดง ประเภทต่อสู้บุคคลหญิงรุ่นประชาชน นายนวพล ชลเจริญ รองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน รุ่นต่อสู้บุคคลชาย ด.ช.ธนเดช ธนาคย์ธนากร รองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน รุ่นต่อสู้บุคคลชาย นายอธิวรรษธ์ จุมพลเมือง รองชนะเลิศอันดับ 2 เหรียญทองแดง รุ่นต่อสู้บุคคลชาย รายการ คาราเต้โด เซ้าอีสเอเชีย คาราเต้ เฟดเดอเรชั่น แชมเปี้ยนชิพ 2024 ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 เม.ย.67 ที่ผ่านมา นายพีรชาญ มานะมุ่งประเสริฐ เหรียญทอง ประเภททีมชาย นายวรพล เชี่ยวหลิว เหรียญเงิน ประเภททีมฟรีสไตล์ และ น.ส.ศศิภา ชูผล เหรียญทองแดง ประเภทคู่ผสมฟรีสไตล์ รายการ เดอะเอส เทควันโด พุมเซ่ แชมเปี้ยนชิพ 2024 ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 22-31 มี.ค.67 ที่ผ่านมา.