Loading

ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยม ศรชล.ระยอง กำชับประสานความร่วมมือส่วนราชการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล และช่วยเหลือ ประชาชนประสบภัยทางทะเล

     เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. พร้อมคณะเดินทางเข้าพบ นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง เพื่อติดตามการทำงานในการประสานความร่วมมือกับทางจังหวัดระยองของหน่วยงานในสังกัดกองทัพเรือ โดยมี น.อ.พัฒนศักดิ์ พิมดา รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)ระยอง ให้การต้อนรับ

     พล.ร.อ.อดุง กล่าวว่า การเดินทางมาดังกล่าว เป็นการมาตรวจติดตามการทำงานของหน่วยงานในสังกัดกองทัพเรือ โดย ศรชล.ระยอง เพื่อเป็นไปตามนโยบายของกองทัพเรือ และรัฐบาล โดยเน้นการประสานความมือการทำงานร่วมกับส่วนราชการในการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล การให้ความช่วยเหลือ ค้นหา ประชาชน และ นักท่องเที่ยวที่ประสบภัยทางทะเล เน้นการค้นหาให้รวดเร็ว และทันท่วงที ซึ่งจะทำให้ผู้ประสบภัยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวทางทะเล ตลอดจนการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล สกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเลทุกรูปแบบอีกด้วย.

Loading

สภาอุตสาหกรรมระยอง และภาคธุรกิจ ค้านขึ้นค่าแรง 400 บาท เหตุต้นทุนการผลิตสูงขึ้น กระทบธุรกิจ SMEs

     เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมยศ ทองบัณฑิต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สมาคมโรงแรมจังหวัดระยอง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยอง สมาคมท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสุขภาพ สมาคม SMEs ไทยจังหวัดระยอง สมาคมผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดระยอง สามคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ได้มีมติไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ของรัฐบาลด้วยเหตุผลต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากจะมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ควรปรับตามที่กฎหมายบัญญัติกำหนดไว้ในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 และมีความต้องการให้มีการปรับอัตราค่าจ้างตามทักษะฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ก็ขอให้ภาครัฐเข้ามาดูแล ด้วยการลดค่าครองชีพของแรงงานด้วย เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำ เป็นต้น

      นายสมยศ เปิดเผยต่อว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน จะกระทบอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ขนาดกลางของจังหวัดระยอง โดยเฉพาะภาคประมง โรงแรม อุตสาหกรรมการเกษตรไปทั่ว แต่อย่างไรก็ตามค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ไม่ได้ตอบโจทย์แรงงานที่มีฝีมือแต่ละระดับของแรงงานคนไทย ซึ่งมันจะกระทบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในเรื่องงานสกิล เบื้องต้นจะมีการทำหนังสือไปที่ กรอ.จังหวัดระยอง ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำต่อไป ทั้งนี้อยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามมติคณะกรรมการไตรภาคีที่กำหนดเอาไว้ ไม่อยากให้มีการขึ้นตามนยาบยของรัฐบาลที่มีการรวบรัดตัดตอนแบบนี้

        ด้านนายพิธพร สมะลาภา ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า หอการค้าจังหวัดระยอง ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ตามนโยบายของรัฐบาล อยากให้ปรับขึ้นตามกฎหมายบัญญัติกำหนดไว้ในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 ซึ่งมีความยุติธรรมกับผู้ประกอบการทุกคน คนที่มีฝีมือควรจะได้ค่าแรงสูง คนไม่มีฝีมือควรจะพัฒนาขึ้นถึงจะถูกต้อง นอกจากนี้แรงงานฝีมือของจังหวัดระยอง ได้ค่าแรงเกิน 400 บาทอยู่แล้ว แต่ว่าแรงงานไร้ฝีมือผู้ประกอบ SMEs ก็ยังต้องใช้อยู่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ควรที่จะพัฒนาฝีมือมากขึ้น เพื่อให้ได้ค่าแรง 400 บาท ไม่ใช่ว่าแรงงานไม่มีฝีมือจะได้ค่าแรง 400 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ และแรงงานที่มีทักษะฝีมือมาก ซึ่งส่วนใหญ่แรงงานไม่มีฝีมือจะเป็นแรงงานต่างด้าว และกลุ่มแรงงานที่ไม่คิดจะพัฒนาฝีมือตัวเอง แต่เรียกร้องค่าแรงสูง

      ด้านนายสงวน แสงวงศ์กิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม การค้า หรือการท่องเที่ยว ซึ่งตนได้รับฟังและประชุมประเด็นปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ 300 กว่าบาทในหลายพื้นที่ไม่เท่ากันจะขึ้นเป็น 400 บาท โดยเฉพาะภาคตะวันออกมีความหลากหลายของอาชีพ ได้รับผลกระทบวงกว้าง ซึ่งตอนต้นปีมีการขึ้นค่าแรงมาแล้ว และจะมีการขึ้นค่าแรง 400 บาทปลายปี เดืนอ ต.ค.นี้ ซึ่งจากสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ที่กำลังฟื้นฟู หรือประคับครองผ่านวิกฤติต่างๆ ถ้าประกอบการยังไม่สามารถตั้งตัวได้เต็มที่ก็จะมาประสบปัจจัยต่างๆ ทางด้านต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องค่าไฟฟ้า น้ำมัน สาธารณูปโภค ซึ่งจะต้องมีการปรับค่าแรงขึ้นอีก ผู้ประกอบการรายใหญ่จะกระทบน้อย แต่เป็นห่วงกระทบภาคธุรกิจจนาดเล็ก SMEs ประมง เกษตร ท่องเที่ยว ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้แรงงานทักษะฝีมือน้อย ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ตอบโจทย์แรงงานชีวิตจะดีขึ้น ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับค่าสาธารณูปโภค ค่าดำรงชีพที่สูงขึ้น จึงอยากจะฝากไว้ถ้าปรับค่าแรงขั้นต่ำ ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติกำหนดไว้ในมาตรการ 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะทำให้ประคับประครองสามารถผ่านวิกฤติเศรษฐกิจช่วงนี้ไปได้ต่อไป.

Loading

วิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง ขนการแสดงวัฒนธรรมจีน 14 ชุด โชว์เทคนิคระยอง แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน

     เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่โดมเอนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมคณะผู้บริหาร ครู และ นศ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง ให้การต้อนรับคณะครู และ นศ.ที่ร่วมการแสดงทางวัฒนธรรมจีนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง สาธารณประชาชนจีน นำโดยนายซง ชุน ฉี ผอ.สำนักกิจการนักเรียน นักศึกษา นายหวัง หยวน หยวน รอง ผอ.สาขาวิชาศิลปะ คณะมนุษย์ศาสตร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง โดยได้มีการโชว์ชุดการแสดงทางวัฒนธรรมจีน จำนวน 14 ชุดการแสดง อาทิ การเต้นรำเรื่อง ดอกไม้ทำไมถึงแดงอย่างนี้ การแสดงศิลปะการเขียนตัวอักษรเรื่อง ลายลือศิลป์จีน การแสดงศิลปะการชงชา เรื่อง วัฒนธรรมชาดั้งเดิมของโบราณและสมัยใหม่ และการ้องเพลงประสานเสียงเรื่องบ้านเกิด โดยให้ครู นศ. วิทยาลัยเทคนิคระยอง ได้ร่วมรับชม โดยการแสดงทางวัฒนธรรมจีนดังกล่าว วิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง มุ่งแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเป็นสะพานที่เสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพ และเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ซึ่งกันและกันกับความก้าวหน้าร่วมกันระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของวิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง และวิทยาลัยเทคนิคระยองด้วย

      สำหรับวิทยาลัยอาชีวศึกษาการเงินเจ้อเจียง ได้มีการลงนามกับวิทยาลัยเทคนิคระยอง ในข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมการฝึกอบรม “ภาษาจีน + ทักษะอาชีพ” ในเดือน มิ.ย.65 ที่ผ่านมา และได้จัดส่งคณะผู้แทนเดินทางมาเยือนวิทยาลัยเทคนิคระยองแล้ว ในเดือน ธ.ค.66 เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนครู อาจารย์และ นศ. และได้กระชับฉันทามติทางความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

Loading

 อบจ.ระยอง เตรียมจัดแข่งกีฬาฟุตบอลจังหวัดระยอง รุ่นอายุ 12,15,17 ปี และรุ่นโอเพ่น มุ่งส่งเสริมเยาวชนคนระยอง เป็นนักเตะอาชีพ และดันสู่ทีมระยอง เอฟซี

     เมื่อเวลา 14.00 น .วันที่ 27 พ.ค.67 ที่หอประชุมโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง นายวิเชียร แสงวงศ์กิจ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวและจับสลากแบ่งสายการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลจังหวัดระยอง รุ่นอายุ 12 ,15, 17 ปี และรุ่นโอเพ่น ประชาชนทั่วไป จัดขึ้นโดย อบจ.ระยอง สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟนิ่ง จก.(มหาชน)หรือ SPRC และ บริษัท ส.กิจชัย จำกัด ซึ่งจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยใช้สนามกระจายในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดระยอง

     นายปิยะ กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาฟุตบอลจังหวัดระยอง ดังกล่าว อบจ.ระยอง สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง และภาคเอกชน ตั้งเป้าส่งเสริมเยาวชนคนระยอง เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และดันสู่อะคาเดมี่ทีมระยอง เอฟซี และจะมีการมอบเงินเป็นทุนในการพัฒนากีฬาของแต่ละโรงเรียนที่ส่งทีมนักเตะเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันด้วย.

       ทั้งนี้ในการแถลงข่าวดังกล่าว มี นายเฉลิมวุฒิ สง่าพล อดีตนักเตะทีมชาติไทย ยุค 80 ซึ่งถือเป็นกองกลางที่ดีที่สุดของทีมชาติไทยในยุคนั้น มาแนะนำแทคติก และการปฏิบัติตัวของนักฟุตบอลอาชีพให้แก่เด็กเยาวชนระยอง ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการแถลงข่าวจัดการแข่งขันด้วย ในโอกาสนี้สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดระยอง ยังได้สนับสนุนเงิน 2 แสนบาท สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลดังกล่าว เป็นเงินทุนก้อนแรกด้วย…000

Loading

เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง ลงนาม MOU กับโรงเรียนชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค์ หลักสูตรต่อเนื่อง เชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา

      เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 ที่วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง นายวีระชัย สมบัติกำไร ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง ลงนาม MOU กับ น.ส.บงกชธร เพิกนิล ผอ.โรงเรียนชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค์ หลักสูตรต่อเนื่อง เชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา มี ดร.ธวัชชัย อุ่ยพานิช ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ด้านการสร้างภาพลักษณ์อาชีวศึกษา  สิบโทไชยยันต์ เกิดเหมาะ ศึกษาธิการจังหวัดระยอง นายกิตติพงค์ อุตตะมะเวทิน ผอ.สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง ร่วมเป็นสักขีพยาน

      ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและการสอนอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมายและเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น ตามนโยบาย ‘ห้องเรียนอาชีพในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน’ รวมทั้งเพื่อจัดทำและพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนร่วมกันเพื่อเป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร บุคลากร การศึกษาดูงานระหว่างกัน และเพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างวิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง และโรงเรียนชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค์อีกด้วย.

Loading

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) EEC เปิดศูนย์เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี นำร่องระยอง สร้างกลไกการมีส่วนร่วมและการรับรู้ของชุมชน ผลักดันการเชื่อมโยงการลงทุนสู่การพัฒนาพื้นที่ และชุมชนอย่างยั่งยืน

     เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พ.ค.67 ที่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอปลวกแดง ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี นายสกนธ์ กรกฎ นายอำเภอปลวกแดง นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สกพอ. และนางพันธกานต์ วัฒนสหโยธิน ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อ.ปลวกแดง ร่วมเปิดศูนย์เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี นำร่องของ จ.ระยอง

     ภายในงานยังมีกิจกรรมทอผ้าใยสับปะรด เพื่อสืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น เปิดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ทั้งนี้การเปิดศูนย์เครือข่ายพลังสตรี อีอีซีดังกล่าว เพื่อให้เป็นตัวแทน อีอีซี ระดับชุมชนในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องบอกเล่าถึงประโยชน์และความคืบหน้าในการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ให้แก่ชุมชนใน อ.ปลวกแดง เป็นโซ่ข้อกลางในการประสานการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางดำเนินกิจกรรมของเครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ในพื้นที่ เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ อ.ปลวกแดงด้วย

       ดร.จุฬา เปิดเผยว่า ศูนย์เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี จะช่วยเชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนมาสู่การพัฒนาพื้นที่และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยเฉพาะการดึงนักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ ให้มีการจับจ่ายใช้สอยชุมชนเกิดรายได้ และอีก อีอีซี พยายามที่จะให้พื้นที่ได้รับประโยชน์จากนักลงทุนด้วย โดยให้นักลงทุนได้ช่วยสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจต่างๆ ในชุมชน ซึ่งของดีแต่ละชุมชนที่มี อีอีซี ก็พยายามประชาสัมพันธ์ในนักลงทุนรู้ และช่วยเป็นลูกค้า เพื่อเกื้อกูลอุดหนุนกันต่อไป.

Loading

เทคนิคระยอง ประชุมเครือข่ายพบปะผู้ปกครอง ชี้แจงนโยบายแนวทางการจัดการเรียนการสอนดูแลนักเรียน นักศึกษา มุ่งลดการออกกลางคันของนักเรียน นักศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567

   เมื่อวันที่ 19 พ.ค.67 ที่โดมเอนกประสงค์วิทยาลัยเทคนิคระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง เป็นประธานในการประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง เพื่อลดการออกกลางคันของนักเรียน นักศึกษา ระดับชั้น ปวช.1 ทุกสาขาวิชา ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2567 โดยมีผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษาจำนวนมาก เข้าร่วมประชุมรับฟังการชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอน แนวทางการดูแลนักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยฯ และการโชว์เดินแบบชุดนักเรียน นักศึกษา และชุดฝึกปฏิบัติการที่ถูกระเบียบให้ผู้ปกครองรับทราบด้วย รวมทั้งเปิดบูธนิทรรศการผลงานของผู้เรียนให้ผู้ปกครองเยี่ยมชม และยังได้ช้อป ชิม ชิลล์กับตลาดนัดขายของอีกด้วย

    นายกิตติพงค์ เปิดเผยว่า การประชุมเครือข่ายผู้ปกครองดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อชี้แจงนโยบายการดำเนินการจัดการเรียนการสอน กฎระเบียนของทางวิทยาลัยฯ การดูแลผู้เรียน รวมไปถึงการพบปะครูที่ปรึกษาที่แผนกวิชา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และพูดคุยสอบถามปัญหาในการดูแลผู้เรียนร่วมกับผู้ปกครอง ทั้งนี้มุ่งลดปัญหาการออกกลางคันของผู้เรียน.

Loading

     พาณิชย์นครปฐม ยกทัพผลิตภัณฑ์ของดีนครปฐมให้ชาวระยองช้อป และเชื่อมโยงการค้าออนไลน์ และการเจรจาธุรกิจ ภายใต้ชื่องาน The Best Guarantee of Nakhon Pathom วันที่ 15-19 พ.ค.นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง มุ่งสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า และรายได้ให้ผู้ประกอบการใน จ.นครปฐม

     เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 พ.ค.67 ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง เมือง จ.ระยอง นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม เป็นประธานเปิดงาน The Best Guarantee of Nakhon Pathom งานแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของดีจังหวัดนครปฐม เชื่อมโยงการค้าและการค้าออนไลน์ การเจรจาธุรกิจ ยกระดับราคาสินค้าสิ่งบ่งขี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย สินค้าปศุสัตว์สินค้าประมง วิสาหกิจชุมชน SMEs เครือข่ายธุรกิจ Biz Club สินค้าชุมชนของดีจังหวัดนครปฐม ซึ่งจัดระหว่างระหว่างวันที่ 15-19 พ.ค.นี้ ที่บริเวณลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีนายกำธร เวหน รอง ผวจ.ระยอง นายยงยุทธ สวนทอง รอง ผวจ.นครปฐม นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม นายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม ดร.ปณิตา ชินวัตร รษก.ผอ.สสว. ร่วมพิธีเปิดฯ ภายในงานมีการออกบูธการจำหน่ายสินค้าดี ผลิตภัณฑ์เด่นที่หลากหลายของนครปฐมทั้งกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 100 รายการ มาเปิดให้ชาวระยองได้เลือกชม และเลือกซื้ออย่างจุใจ และยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้า ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าอีกด้วย

     นายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า นครปฐม ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมของดีนครปฐมสู่ตลาดภายในประเทศ โดยจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรแปรรูป สินค้าชุมชน และการบริการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ สินค้านวัตกรรม สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และด้านการบริการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม ซึ่งการจัดงานดังกล่าว มุ่งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าของผู้ประกอบการนครปฐมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาด และช่องทางการจำหน่ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน สร้างมูลค่าการค้าระหว่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย

     ดร.ปณิตา   ชินวัตร  รษก.ผอ.สสว. กล่าวว่า  วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ถือได้ว่าเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีบทบาทในการพัฒนาและสนับสนุนการเติบโตในมิติต่าง ๆ ที่สำคัญ คือบทบาทด้านเศรษฐกิจ SME มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ธุรกิจ SME มีความเข้มแข็ง ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ภายใต้การแข่งขันที่มีจำนวนมาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จึงต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจที่สำคัญ สำหรับงาน The Best Guarantee of Nakhon Pathom ในครั้งนี้ ทาง สสว. เราช่วยในการประสานงานคู่ค้าในพื้นที่ซึ่ง สสว. มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับหน่วยงานพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว.ได้รับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้ง 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพ/ลดต้นทุน  การขยายช่องทางการตลาด และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน    สำหรับผู้ที่สนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรมของ สสว. ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกของ สสว. ได้โดยการลงทะเบียน SME ONE ID ผ่าน Application “SMECONNEXT” โดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จาก สสว.และหน่วยงานสนับสนุนต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน…0000

Loading

สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถานศึกษา 11 ใน จ.ระยอง ร่วมลงนาม MOU ขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง

     เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 พ.ค.67 ที่โรงแรมแทมมารินด์ การ์เด้นระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย(ยท.) เป็นประธานเปิดการประชุมภาคีผลักดันการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนน และลงนามบันทึกความร่วมมือ MOU ขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง ประจำปีงบประมาณ 2567  ระหว่างสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานศึกษาอาชีวศึกษา และหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวม 11 แห่ง ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ร่วมลงนามกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง วิทยาลัยการอาชีพแกลง สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดระยอง สำนักงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรภาคตะวันออก และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

       นอกจากนี้ในงานยังมีการปาฐกถาพิเศษเรื่อง ‘งานขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่จังหวัดระยอง’ มีนายสาธิต ปิตุเตชะรมช.สธ. และนายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผอ.วิทยาลัยเทคนิคระยอง โดยการประชุมและลงนามฯ ดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นการหารือและรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชนพื้นที่จังหวัดระยอง ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมอีกด้วย.

Loading

กลุ่มจีพีเอสซี จับมือภาคีเครือข่าย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำประจำปี 2567

      เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 คุณพัฑฒิ บุณยสุขานนท์ ผู้จัดการส่วนปฏิบัติงานผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการสาธารณะในฐานะผู้แทนกลุ่มบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี โดยบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ร่วมกับภาคีเครือข่ายและภาครัฐ จัดกิจกรรม“ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประจำปี 2567” ณ กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านปากคลองตากวน จังหวัดระยอง ซึ่งได้รับเกียรติจากนายอรัญ ใจตั้ง รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยในกิจกรรมครั้งนี้ได้ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำประเภท กุ้งทะเล 250,000 ตัว ปลากะพงขาว 3,000 ตัว ลูกปู 1,500,000 ตัว และพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูม้า 200 ตัว รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,753,200 ตัว เพื่อเป็นการขยายพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนลงสู่ทะเลต่อไป

     การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์อาชีพชาวประมง การเรียนรู้วิถีชีวิตคนท้องถิ่น เพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มประมงโดยรอบ สร้างสมดุลระบบนิเวศวิทยาและยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อม สู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน…000

ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน