Loading

สถานการณ์โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดระยอง ยังไม่น่าไว้วางใจ ระบุมีสิทธิ์จะกลับมาระบาดซ้ำได้ตลอดเวลาหากประมาท เพราะยังพบผู้ป่วยใหม่รายวัน แนะประชาชนการ์ดอย่าตก ชี้สิ้นเดือนนี้อาจมีผ่อนคลายมาตรการ ลดความเดือดร้อนตามเสียงเรียกร้อง

 ******วันที่ 25 ม.ค.  เวลา 13.00 น. นายอนันต์  นาคนิยม  รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง  นายแพทย์สุนทร  เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมแถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดระยอง วันนี้ว่า ยังพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน โดยฝ่ายชายเป็นพนักงานบริษัทฯแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ส่วนฝ่ายหญิงเป็นพนักงานขายสินค้า ซึ่งภายหลังการตรวจพบผลเป็นบวก สองสามีภรรยาได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที และทีมแพทย์เข้าทำการสอบสวนโรค เบื้องต้นนำกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดสองสามีภรรยา จำนวน 7 คน เข้าสถานกักกันเฝ้าระวังโรคแล้ว

 จากจำนวนพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 2 ราย วันนี้(25มค.)ทำให้ยอดสะสมผู้ป่วยโควิด19 ในจังหวัดระยองมีจำนวนสะสมทั้งสิ้น 576 รายแล้ว ในจำนวนนี้มีเสียชีวิต 1 ราย

******* นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เผยว่า ในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 ทั้ง 576 รายของจังหวัดระยองนั้น รักษาหายกลับบ้านแล้ว 538 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 37 ราย ในจำนวนนี้มีอาการเล็กน้อยถึงปานและรับยาจำนวน 4 ราย ส่วนที่เหลือไม่มีอาการ    ถึงแม้สถานการณ์ภาพรวมโควิด19 ในจังหวัดระยอง จะมีแนวโน้มดีเหมือนจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกรายวันยังตรวจพบผู้ป่วยใหม่ทุกวัน จึงขอความร่วมมือชาวระยอง อย่าพึ่งประมาทและการ์ดอย่าตก ขอให้ยึดปฏิบัติตัวตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป จนกว่าจะไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ติดต่อกันอย่าน้อย 14 วัน จึงพอน่าจะวางใจได้

****** นายอนันต์ นาคนิยม  กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้(26มค.) ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยอง คาดว่าน่าจะมีการนำเรื่องผ่อนคลายเข้าหารือในคณะกรรมการ ส่วนจะมีมติให้ผ่อนคลายมาตรการอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อ จะมีมติเห็นชอบให้ผ่อนคลายมาตรการกิจการอะไรบ้าง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยอมรับว่า เวลานี้มีเสียงเรียกร้องค่อนข้างหนักจากผู้ประกอบการในหลายกิจการรวมทั้งประชาชนชาวระยอง ขอให้จังหวัดได้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดลง เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและประชาชน

 รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวว่า ถึงตัวเลขพบผู้ป่วยใหม่ในแต่ละวันจะมีจำนวนน้อยก็ตาม ยังถือว่าพื้นที่จังหวัดระยอง มีความสุ่มเสี่ยงอยู่ในการระบาดของโรค ดังนั้นขอให้ชาวระยองอดทนสักระยะ แต่เชื่อว่าสิ้นเดือนมกราคมนี้ น่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการลงในหลายกิจการ….00000

                       ธนัญธร   รวงผึ้ง

Loading

กลุ่มบริษัท GPSC สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19)

        เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 คุณวสันต์ สุสุนทร ผู้จัดการแผนกชุมชนสัมพันธ์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ในฐานะผู้แทนกลุ่มจีพีเอสซี สนับสนุนข้าวสารที่ผลิตจากวิสาหกิจชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 3,200 กิโลกรัม โดยมี คุณชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ นางธัมมิกา เอี่ยมแสง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ส่วนหนึ่งให้กับวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยองอีกด้วย…000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ร่วมกับ กต.ตร.จังหวัดระยองและภาคเอกชน จัดโครงการปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด19 ด้วยกัน ในรูปแบบสายตรวจเดลิเวอรี่ ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากโควิด19

วันที่ 21 ม.ค. นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด19 ด้วยกัน ที่บริเวณลานหน้าสำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

 ทั้งนี้โครงการปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด 19 ด้วยกัน เป็นความร่วมมือกันระหว่างตำรวจภูธรจังหวัดระยอง คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจจังหวัดระยอง หรือ กต.ตร.และภาคเอกชนในจังหวัดระยอง ร่วมกันจัดขึ้น ด้วยการจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น  ส่งเป็นความสุข คลายความทุกข์โควิด 19 จัดทำเป็นถุงยังชีพ ส่งถึงมือประชาชนในรูปแบบสายตรวจ เดลิเวอรี่

 พลตำรวจตรี มานะ อินพิทักษ์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธร ภาค 2 รักษาราชการแทนผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง กล่าวว่า โครงการปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด 19 ด้วยกัน เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดโควิด19 หากจะนำสิ่งของหรือถุงยังชีพมาจัดแจกรวมกัน จะทำให้เกิดการรวมกลุ่มและแออัดของผู้คน ซึ่งจะสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด19 ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง จึงหารือร่วมกัน จัดนำสิ่งของไปมอบแจกประชาชนถึงบ้าน ในรูปแบบสายตรวจเดลิเวอรี่เพื่อลดปัญหาความแออัด อีกทั้งยังเป็นการเว้นระยะห่าง ตามมาตรการสาธารณสุข 

 สำหรับสายตรวจเดลิเวอรี่ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ได้มอบหมายให้สถานีตำรวจในสังกัดทั้ง 16 สถานี จัดทำขึ้น โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นพนักงานเดลิเวอรี่ไปพร้อมกันด้วย โดยนำสิ่งของที่จัดเป็นถุงยังชีพ นำติดรถออกแจกมอบแก่ชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง ในช่วงการออกปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยผู้ที่เดือดร้อนจากโควิด 19 แล้ว ยังเป็นการสร้างเสริมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของข้าราชการตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกด้วย ซึ่งโครงการสายตรวจเดลิเวอรี่ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม นี้

 อย่างไรก็ดีภายหลังเปิดโครงการ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะประธาน กต.ตร.จังหวัดระยอง ได้นำคณะ กต.ตร.ลงพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนประชาชนพร้อมนำถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด ออกไปแจกจ่ายแก่ประชาชนในชุมชนวัดโขดทิมทาราม และชุมชนทุ่งตะโนด เขตเทศบาลนครระยอง ที่ได้รับกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด19 ในพื้นที่จังหวัดระยอง ด้วย ซึ่งประชาชนได้รับถุงยังชีพ น้ำ ดีใจพร้อมกับพูดว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นผู้ว่า รองผู้บัญ๙าการตำรวจภูธรภาค2เดินทางเข้ามาในตรอกซอกซอยชุมชนนำสิ่งของมาให้ถึงบ้านยามประชาชนเดือดร้อนไม่มีเงินไปซื้อแล้ว…000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

      ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ร่วมกับ มูลนิธิเอสซีจี และบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด มี นายไพศาล เล็กสกุลไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด นายสุวิทย์ วิศิษฎ์วรณัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด นายศิริพันธ์ อาจนนท์ลา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็มเอ็มเอ จำกัด นายสุนทร ประสพชิงชนะ ROC Production Division Manager นายฤกษ์ กาญจโนปถัมภ์ ผู้จัดการส่วนผลิต HD2, 3 และนางสาวปาณฑรา สุธีระวงศา จากธุรกิจ เคมิคอลส์ เอสซีจี

เป็นตัวแทนส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 และถุงยังชีพ ให้กับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลตำบลเนินพระ เทศบาลตำบลทับมา เทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา เทศบาลตำบลบ้านฉาง และเทศบาลนครระยอง รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมี นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด นายบุญธรรม ใยกล้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเนินพระ นางสาวเรวีญา ขจิตเนติธรรม ปลัดเทศบาลตำบลทับมา ดร.สมเกียรติ จองจิตรมั่น ปลัดเทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครระยอง และตัวแทนชุมชน เป็นผู้รับมอบ

            สำหรับอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ที่ส่งมอบในครั้งนี้ประกอบไปด้วย ที่วัดอุณหภูมิดิจิทัลแบบไม่สัมผัส น้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อเข้มข้น (โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ถุงมือยางไนไตรล์ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% หมวกคลุมผม เสื้อกาวน์ (Isolate Gown) ปรอทวัดไข้ ถุงยังชีพสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และน้ำดื่ม เพื่อดูแลชุมชนในเขตเทศบาลทั้ง 6 เขตให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี  มูลนิธิเอสซีจี และบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด ที่มีความห่วงใยต่อสุขภาพของคนในชุมชนพื้นที่ จ.ระยอง โดยบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด ได้ร่วมสนับสนุนถุงมือยางไนไตรล์ที่จำเป็นสำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์

นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด กล่าวว่า “การระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงและขยายวงกว้างกว่าครั้งแรก ซึ่งในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดมีประชากรอยู่จำนวนมาก ทั้งประชากรเดิมและประชากรแฝง หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ยังคงเป็นของจำเป็นในช่วงที่มีโรคระบาด เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ สำหรับอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ทั้งหมด พร้อมถุงยังชีพที่ทางเอสซีจีได้นำมามอบไว้ให้กับเทศบาลในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อศูนย์บริการสาธารณสุขเนินพยอมและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ”  

นายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฉาง กล่าวว่า “นอกจากหน้ากากอนามัยที่จำเป็นสำหรับชุมชนแล้ว น้ำยาฆ่าเชื้อก็จำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะกับทางเทศบาลที่จะมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น ตลาด เป็นต้น เพื่อให้ชุมชนได้มั่นใจว่าสถานที่ต่าง ๆ ที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปมีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการติดเชื้อ”

นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครระยอง กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเทศบาลนครระยอง ประชาชนจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตอย่างมาก อุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ ขอบคุณเอสซีจี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในสุขอนามัยของชาวระยอง”

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

ไออาร์พีซี เดินหน้ามอบชุดหน้ากากอนามัย จำนวน 25,000 ชิ้น และ แอลกอฮอล์ จำนวน 15,000 ขวด ให้กับประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยง ที่ขาดความพร้อมในการช่วยเหลือป้องกันตนเอง เช่น ชุมชน    บ้านเช่า ชุมชนแออัด เป็นต้น ทั้ง 5 พื้นที่ รอบเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี 

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติจาก         นายสุพจน์  ต่ออาจหาญ นายอำเภอเมืองระยอง และ นายวีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง รับมอบชุดหน้ากากอนามัย จำนวน 25,000 ชิ้น และ แอลกอฮอล์ จำนวน 15,000 ขวด จัดเป็นชุด      รวม 7,500 ชุด จาก นายวรวุฒิ ศิวะเพ็ชรานาถ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายปฏิบัติการผลิตปิโตรเคมีและ   การกลั่น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ให้กับผู้นำทั้ง 5 พื้นที่รอบเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี    คือ นายธนิต อังควินิจวงศ์ รองนายกเทศมนตรีนครระยอง, นายประสิทธิ แก้วไพฑูรย์ ประธาน อสม.เทศบาลนครระยอง, นายประเชิญ เห่งยี่ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงเนิน, นายอรัญ โพธิ์แก้ว กำนันตำบลเชิงเนิน,                  นายทวีป    แสงกระจ่าง  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง, นายสุทน โพธิ์แก้ว กำนันตำบลตะพง, นายธัญชนัท พรพิมานหัวหน้าสำนักปลัด อบต.บ้านแลง ตัวแทนนายสายัณห์ ศรีเผือก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแลง,  นางรำพึง แสงจันทร์ สารวัตร ตัวแทนนายวิรัช สกุลพงษ์ กำนันตำบลบ้านแลง , นายลำยอง ธรรมยิ่ง             นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาตาขวัญ และ  นายสาธิต สุขประเสริฐ  กำนันตำบลนาตาขวัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปแจกให้กับกลุ่มชุมชนบ้านเช่า ชุมชนแออัด ทั้ง 5 พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงรอบเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เพื่อใช้ป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของ      โควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ไออาร์พีซีจะเริ่มแจกชุดหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ ระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2564

โดยก่อนหน้านี้ ไออาร์พีซี ยังร่วมให้การสนับสนุนมอบฉากกั้นอะคริลิคบนโต๊ะทำงานป้องกันเชื้อโควิด-19 ฟุ้งกระจาย จำนวน 200 ชุด ให้กับหน่วยงานราชการผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, สนับสนุนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและอุปกรณ์สำหรับฉีดพ่นให้กับโรงเรียนศึกษาพิเศษระยองปัญญานุกูล รวมทั้ง สนับสนุนงบประมาณจัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อและอุปกรณ์ป้องกันภัยโควิด-19 ให้กับเทศบาลนครระยอง เทศบาลตำบลเชิงเนิน  อบต.ตะพง    อบต.บ้านแลง อบต.นาตาขวัญ ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดระยองอีกด้วย…0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เดินหน้ามอบอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นในการทำงานอย่างปลอดภัย อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ และสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ของจังหวัด อำเภอ สาธารณสุข และเทศบาลต่าง ๆ ซึ่งปฏิบัติงาน ณ จุดให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุก และจุดตรวจเพื่อป้องกันและควบคุมการติดต่อของเชื้อโควิด-19 จังหวัดระยอง พร้อมกับมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และกระบอกฉีดผสมน้ำยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้น 1-2% ให้กับชาวระยองที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง เพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 มุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย และยั่งยืนของชุมชน..000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

วันที่ 4 มกราคม เวลา 12.00 นาฬิกา พันตำรวจตรี เจริญ  เดชพ่วง สารวัตร ( สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรมาบตาพูด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลจังหวัดระยอง จุดมาบตาพุด แจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธมีดแทงกัน เสียชีวิต 1 รายเป็นชาย บาดเจ็บ 1 รายเป็นหญิง นำตัวส่งโรงพยาบาลระยองแล้ว  เหตุเกิดบริเวณถนนสายโขดหิน – เขาไผ่ (ชุมชนเขาไผ่) หน้าหมู่บ้านบุญถาวร 8 ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุและร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย

    จึงได้รายงาน พันตำรวจเอก ภาสกร ไพจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด พันตำรวจเอก ศุภกฤษ  ทองลิ่ม นัวิทยาศาสตร์ ( สัญญาบัตร 4 ) พิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยอง พร้อมกำลังชุดสืบสวน ตรวจที่เกิดเหตุ พบศพชาย 1 รายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนน ทราบชื่อ นายรัตน์ติพงษ์  ตานะ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 3 ตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดพบบาดแผลถูกอาวุธมึดแทงที่บริเวณด้านหน้าราวนมด้านขวายาว 2 นิ้ว 1 แผล กลางอกด้านหน้ายาว 2 นิ้ว 1 แผล ใต้สะดือด้านหน้ายาว 2 นิ้ว 1 แผล และไหล่ด้านหลัง 1 แผล ห่างจากผู้ตายประมาณ 3 เมตรพบอาวุธมีดทำครัว 1 เล่มสภาพถูกห่อด้วยกระดาษแข็ง ยังไม่พบว่ามีรอยเลือดติดอยู่ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นมีดของผู้เสียชีวิตที่เตรียมมาหรือของผู้ก่อเหตุ ห่างจากผู้ตายประมาณ 10 เมตรพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 สีดำหมายเลขทะเบียน ขมน 232 ลำปาง จอดล้มอยู่ หมวกกันน็อค 1 ใบรองเท้าแตะ 2 คู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายจากการถูกถีบรถจักรยานยนต์ล้มนำตัวส่ง โรงพยาบาลระยอง ทราบชื่อ นางสาวจิตรกัญญา ( สา) หยางศิริพงษ์ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 48 หมู่ 8 ตำบลศรีราษฎร์ อำเภอพลพระ จังหวัดตาก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายเก้ง  แซ่เฮ้อ อายุ 29 ปี สัญชาติม้ง หลังจากก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิก 150 ไอ หมายเลขทะเบียน 1กน – 2733 พระนครศรีอยุธยา หลบหนีไป

     เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ เดินทางไปที่แคมป์คนงานผู้ก่อเหตุ อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร จากการสอบถาม นางน้ำทิพย์ ศิริเมือง อายุ 45 ปี เป็นแฟนหัวหน้าแคมป์คนงาน เล่าให้ฟังว่านางสาวสาผู้บาดเจ็บพักอยู่ห้องเลขที่  บี 605 นายเก้งผู้ก่อเหตุได้พักอยูห้องเลขที่ บี 715 อยู่ตรงข้ามกัน นายเก้งและนางสาวสาทำงานเป็นคนงานอยู่บริษัทอิตตาเลี่ยนไทย เคยคบกันและรู้จักกันอยู่ด้วยกัน แต่ช่วงหลังเริ่มห่างกัน เนื่องจากนายเก้งชอบตบตี และทำร้ายร่างกาย นางสาวสา เมื่อวานเวลาประมาณ 17.00 นาฬิกา ผู้ตายได้มาหานางสาวสา ที่แคมป์คนงานและทะเลาะมีปากเสียงชกต่อยกันก่อนจะแยกย้ายกันไป   จนกระทั่งวันนี้ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหานางสาวสา และมารับนางสาวสา ออกไปด้านนอก และนายเก้ง ขี่จยย.ตามออกไป

    ด้าน พันตำรวจเอก ภาสกร  ไพจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด กล่าวว่าเหตุดังกล่าวสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาวมีการทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ระหว่างสามีเก่ากับสามีใหม่ ผู้หญิงขอเลิกแล้วผู้ก่อเหตุไม่ยอมและยังหึงหวงเนื่องจากเป็นสาวหน้าตาดี  วันนี้ นายเก้งผู้ก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานต์ตามทั้งสองออกมา และน่าจะถีบรถจักรยานยนต์ผู้ตายจนล้ม และเข้าไปใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต ส่วน นางสาวสา ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง จะได้ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป…….0000

อนุสรณ์ บุญประเสริฐ ภาพ/ข่าว ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน

Loading

ชาวระยองกลุ่มเสี่ยง ยังแห่เข้าแจ้งขอตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด19 ต่อเนื่อง หลังเปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยยิ่งเปิดยิ่งพบกลุ่มเสี่ยงขยายวงกว้าง เตรียมเปิดจุดคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อ เร่งมือสกัดยับยั้งการแพร่ของโรค

สำหรับบรรยากาศบริเวณตลาดเนินอุไร สวนศรีเมือง เขตเทศบาลนครระยอง ซึ่งเปิดเป็นจุดตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้(3มค.)ยังมีบรรดาชาวระยอง กลุ่มเสี่ยงทั้งหลายพากันเดินทางไปขอตรวจคัดกรองหาเชื้อกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่คัดกรอง จุดตรวจสอบซักประวัติกลุ่มเสี่ยงที่มาขอตรวจวันนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงลูกค้าธนาคาร กรุงไทย สาขาระยอง ที่เข้าไปใช้บริการในธนาคาร หลังพบพนักงานของธนาคารป่วยติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 3 ราย นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงลูกค้าร้านต้นหมูกระทะ ที่พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเข้าไปใช้บริการนั่งกินหมูกระทะ และกลุ่มเสี่ยงรถตู้โดยสารสาย บขส.ใหม่-สนามบินอู่ตะเภา ที่พบว่าคนขับรถตู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ในพื้นที่จังหวัดระยอง ยังไม่น่าจะไว้วางใจ ถึงแม้การตรวจค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อจะมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง 2 วันแล้วก็ตาม แต่เมื่อยิ่งเปิดไทม์ไลน์ของบรรดาผู้ป่วยติดเชื้อที่ตรวจพบในแต่ละวัน ยิ่งน่าเป็นห่วง และยิ่งมีกลุ่มเสี่ยงขยายวงกว้างจำนวนมาก ทั้งนี้ล่าสุดนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้สั่งตั้งจุดตรวจคัดกรองในเขตเมืองระยอง เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง นอกจากบริเวณตลาดเนินอุไร ที่เปิดให้บริการตรวจคัดกรองหาเชื้ออยู่เวลานี้ ได้สั่งตั้งจุดตรวจคัดกรองเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ที่บริเวณ บขส.เก่า ศูนย์การค้าระยอง โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการในวันอังคารที่ 5 มกราคม ที่จะถึงนี้ เพื่อเร่งตรวจหาผู้ป่วยในเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อและยับยั้งการกระจายของโรคต่อไป………0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

-รปภ.น่ายกย่องเก็บกระเป๋าเงินมีสร้อยข้อมือทองคำคืนเจ้าของ
/// รปภ.คนดี เก็บกระเป๋าเงินที่มีสร้อยข้อมือทองคำ ส่งตำรวจตามหาเจ้าของ ด้านเจ้าของกระเป๋าสุดดีใจเผยลืมวางไว้บนหลังคารถ ขอบคุณในความดี ไม่คิดว่าจะได้คืน ///

***เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 ม.ค.พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ ยันตรพันธ์ สว.เวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งจากนายประเสริฐ สมเพชร อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 191/45 ม.5 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พนักงาน รปภ.บริษัทไออาร์พีซี จำกัด มหาชน ได้นำกระเป๋าเงินที่เก็บได้กลางถนน ตรงทางแยกตากสิน ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อนำคืนเจ้าของ

***ต่อมาเป็นจังหวะเดียวกัน กับที่ นายอัศวิน แก้วนิติณรงค์ อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง ได้เดินทางเข้ามาที่ สภ.เมือง ระยองพอดี เพื่อจะแจ้งความกระเป๋าเงินหล่นหายพอดี จึงตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋า พบมี เงินสดจำนวน 200 บาท สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง ราคาประมาณ 7,000 กว่าบาท บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม และ บัตรพนักงาน ซึ่งเป็นคนเดียวกัน กับเจ้าของกระเป๋า จึงส่งกระเป๋าคืนให้ โดยตรวจสอบแล้วทรัพย์สินอยู่ครบ

โดยนายอัศวิน เต้าของกระเป๋าเงิน ได้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้มาจอดรถยนต์เก๋งซื้อกาแฟเย็นดื่มในร้านแห่งหนึ่งใกล้กับจุดที่กระเป๋าหล่น ก่อนขึ้นรถได้วางกระเป๋าบนหลังคารถแล้วลืมก่อนจะขับรถออกไป จนกระทั่งถึงบ้านจึงรู้ตัวว่ากระเป๋าหาย จึงเตรียมหลักฐานมาแจ้งความจนมาเจอคนเก็บได้มาส่งคืนพอดี รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว ต้องขอบคุณในความเป็นคนดีเป็นอย่างมาก เตรียมมอบสินน้ำใจให้ต่อไป

**ด้านนายประเสริฐ ได้เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็นรปภ.บ.ไออาร์พีซี วันนี้หยุดงาน ขณะกำลังขับรถไปตักมูลวัว พอถึงจุดแยกตากสินก็พบ กระเป๋าตกกลางถนน จึงจอดเก็บ โดยไม่คิดว่าจะเอาไว้เป็นของตัวเอง โดยไม่ได้เปิดดูทรัพย์สินภายในเลย เตรียมจะนำมาแจ้งตำรวจเพื่อคืนเจ้าของ เพราะใจเขาใจเรา เจ้าของเขาคงเดือดร้อนแน่หากเราไม่เอาไปคืน หลังเสร็จงานจึงรีบนำมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามเจ้าของ และ โชคดีที่เจอเจ้าของ ดีใจที่ได้ทำความดี ปัจจุบันตนเองก็ยังเป็น อาสาจราจร สภ.เมือง ระยองด้วย

ต่อมาจึงได้ทำการส่งมอบกระเป๋าเงินดังกล่าวคืน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางเสียงขื่นชมของผู้ที่มาติดต่อราชการใน สภ.เมือง ระยอง…000

Loading

-แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวดวงซวยวัยรุ่นขี่รถจยย.ยิงพลุไฟฉลองตกใส่วอดทั้งร้าน
***เวลา 16.00 น.วันที่ 1 ม.ค. ร.ต.อ.หญิง ปริชญา เอียดแก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุจาก น.ส.วิมลพร มีทรัพย์มั่น อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 85 ม.3 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ของตนเอง ซึ่งตั้งอยู่ถนน หนองมะหาด ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ขอให้มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุด้วย


**เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ สร้างใหม่พึ่งเสร็จทั้งหลัง พบว่ามีอุปกรณ์สำหรับทำก๋วยเตี๋ยว หม้อ จาน โต๊ะเก้าอี้ โดนไฟไหม้เสียหายทั้งหมดมูลค่ารวม 80,000 บาท
***จากการสอบถาม น.ส.วิมลพร เจ้าของร้านผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.เวลา 18.30 น.ตนได้เดินทางไปเที่ยวยังเกาะเสม็ด เพื่อร่วมฉลองวันปีใหม่กับเพื่อนๆ กระทั่งช่วงเวลาเที่ยงคืนสิบห้านาที ป้าเจ้าของบ้านเช่าที่ตนเองเช่าอยู่ได้โทรศัพท์มาบอกกันตนว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโดนไฟไหม้เกือบหมดร้าน มีชาวบ้านใกล้เคียงมาช่วยกันดับไฟให้ แต่ไม่สามารถควบคุมไว้ได้ เพราะจุดไฟไหม้เริ่มที่หลังคาของร้านและเป็นมุงหญ้าคาลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว
**ชาวบ้านซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเคาท์ดาวน์เห็นกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์วิ่งผ่านมาหลายคันจากนั้นคนนั่งซ้อนท้ายได้ถือพลุ ดอกไม้ไฟยิงขึ้นบนท้องฟ้า ก่อนที่จะตกลงมาบนหลังคาร้านก๋วยเตี๋ยวจนเกิดการลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว
น.ส.วิมลพร พูดด้วยความเสียใจ ว่าตนเองพึ่งจะลงทุนได้ไม่ถึงเดือนอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบเงินเพื่อลงทุนจะขายก๋วยเตี๋ยว ว่าจะเปิดทำการขายในวันที่ 1 ม.ค.เพราะเป็นวันปีใหม่ลงทุนไปหลายหมื่นบาท
**ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่เล่นยิงดอกไม้ไฟจนทำให้เสียหายมาดำเนินคดีให้ด้วย…

รังสรรค์ ขวัญดี ภาพ/ข่าว ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน