คนร้ายลักทรัพย์โดนมือปืนปริศนายิงเสียชีวิตดับคาที่
***เมื่อเวลา14.30 น.วันที่ 1 ม.ค. ร.ต.อ.หญิง ปริชญา เอียดแก้ว ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้ชายถูกอาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต ภายในป่าหญ้า ข้างโรงงาน RNC โรงงานผลิตเมทัลชีท ริม ถ.สาย36 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ระยอง หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล และ ตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบทันที
***เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นป่าหญ้าที่ขึ้นรกอยู่ริมถนน ห่างจากถนน 50 เมตร พบศพ ผู้ชายใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาวรองเท้าผ้าใบ โดยใช้ผ้าโพกหัวมิดชิด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้า ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบบาดแผลที่กลางหลัง 1 แผลเป็นรูโหว่เลือดไหลแห้งเกรอะกรังเต็มเสื้อ ตรวจสอบบาดแผลคาดถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่กลางหลัง 1 นัดจนเสียชีวิต คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชม.ใกล้กัน พบ สายไฟฟ้า 1 ม้วน ทีวีจอแบน 1 เครื่อง และ รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ก่อนจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่รพ.ระยองต่อไป

***จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 02.30 น.วันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำตู้ยามทับมา ได้รับแจ้ง เกิดเหตุคนร้ายใช้ครีมตัดรั้วเหล็กเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในโรงงาน RNC ซึ่งคนร้ายได้หนีไป โดยไม่สามารถติดตามได้ทัน ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ในโรงงาน แล้วมาถูกยิงจนเสียชีวิต

**ต่อมาจึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ของโรงงานดังกล่าว เดินทางในจุดเกิดเหตุ เมื่อพบเห็น สายไฟ และ ทีวี ได้ระบุว่าเป็นทรัพย์สินของโรงงานที่ถูกขโมยไปกลางดึก ส่วนจยย.คาดเป็นของคนร้ายที่เสียชีวิต แต่ปฏิเสธไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง ก่อนจะนำเอาทรัพย์สิน ทีวี และ สายไฟกลับไปพร้อมปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการเสียชีวิต ส่วนจยย.เจ้าหน้าที่ตรวจได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตรวจสอบหลักฐานในจุดเกิดเหตุ และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสมือปืนที่ก่อเหตุพร้อมหาเบาะแสของผู้เสียชีวิตว่าเป็นใคร เพื่อแจ้งให้ญาติทราบเรื่อง จากการตรวจระบุว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะถูกยิง ซึ่งจะสืบหามือยิงรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป..

รังสรรค์ ขวัญดี ภาพ/ข่าว ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน

     เทศบาลนครระยองฉีดพ่นฆ่าเชื้อทุกตรอกซอกซอยในตัวเมือง เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 นายกฯแจงไม่ติดโควิดจากเลขาฯเพราะไม่ค่อยได้พบกันส่วนใหญ่สั่งงานทางโทรศัพท์

     ********วันที่31 ธันวาคม 2563  นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง  นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมฉีดยาฆ่าเชื้อโรคบนถนนทุกเส้น ในชุมชนทุกชุมชน โดยรถดัดแปลงใช้พัดลมเป่าน้ำยากระจายเป็นฝอยทุกตรอกซอกซอยในเขตอำเมืองระยอง โดยทำการฉีดพ่นตลอดทั้งวันเพื่อขจัดเชื้อโรคและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ประชาชนชาวระยอง ต้องอยู่กับบ้านกับเรือน ไม่ออกจากบ้านเป็นการหยุดเชื้อเพื่อระยอง

นายวรวิทย์  ศุภโชคชัย ยังกล่าวอีกว่า  กรณีที่มีข่าวลือและมีคำถามมากมายเกี่ยวกับตนเอง เรื่องตนเองป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเลขาส่วนตัวตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด จากการสัมผัสผู้ที่มีเชื้ออยู่  ตนเองได้ทราบข่าวอยู่แล้ว แต่ก็ได้ไปตรวจเช็คร่างกายตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อย โดยผลเบื้องต้นที่ทางหน่วยงานฯตรวจคัดกรอง แจ้งว่าผลเป็นปกติดี อย่างไรก็ตามในการทำงานหรือการใช้ชีวิตปกติในแต่ละวันนั้น ตนเองก็ไม่ประมาท ปฏิบัติตนเองตามคำแนะนำของแพทย์และเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา  ทั้งนี้นายวรวิทย์ ได้ฝากขอบคุณในความห่วงใยของพี่น้องประชาชน ที่มีมายังตนเอง และขอให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดระยอง รวมถึงในจังหวัดอื่นๆ ร่วมกันดูแลตัวเอง ไม่ไปในพื้นที่สุ่มเสียง ทำตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันลดเชื้อ ให้ทุกอย่างกลับมาปกติโดยเร็ววัน…000

อนุสรณ์ บุญประเสริฐ ภาพ/ข่าว ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงข่าวติดโควิด-19 เพิ่มอีก 77 คน รวมทั้งหมด 279 คน แจ้งผู้โดยสารรถทัวร์ ระยอง-เชียงใหม่ เข้ามาตรวจด่วน หลังพบคนขับติดเชื้อ ขณะเดียวกันโรงพยาบาลรองรับผู้ติดเชื้อใกล้เต็ม เตรียมหาโรงพยาบาลสนามขนาด 200 เตียงรองรับ

       เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 31 ธ.ค.นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวีรศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของจังหวัดระยอง ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดระยอง

********นายชาญนะ เอี่ยมแสง กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อีก 77 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 279 คน เสียชีวิต 1 คน ในจำนวนนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อด้วย 1 คน ส่วนแรงงานต่างด้าว จำนวน 16 คน ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นผู้ป่วยของจังหวัดใดระหว่าง ชลบุรี-ระยอง กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของ ศบค.สาเหตุที่พบผู้ติดเชื้อมาก เพราะทางจังหวัดได้รับรถพระราชทานฯ มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จึงทำให้วันนี้พบเชื้อประจำวันมากที่สุด ขณะนี้จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยใกล้เต็มแล้ว เบื้องต้นมีสถานที่กักตัวได้แล้ว 70 เตียง และเตรียมหาโรงพยาบาลสนามรองรับเพิ่มอีกประมาณ 200 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา และอยากฝากว่าท่านใดที่เกี่ยวข้องในกลุ่มเสี่ยงให้รีบไปตรวจ สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจแล้วไม่พบเชื้อ อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจควรกักตัว 14 วันก่อน หลีกเลี่ยงการสัมผัสคนอื่น เพื่อป้องกันกรณีที่อาจรับเชื้อแต่ยังอยู่ในระหว่างการเพาะเชื้อ อีกเรื่องสำคัญคือ หนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิด ที่เป็นคนขับรถประจำทางนครชัยแอร์ สายเชียงใหม่-ระยอง หมายเลขทะเบียน 10-2337 ระยอง เลขข้างรถ 659-1 ขอให้ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับรถคันดังกล่าวตั้งแต่วันที่  17-26 ธ.ค.63  ให้รีบไปรายงานตัวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือสาธารณสุขใกล้บ้าน ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปพ่นฆ่าเชื้อภายในสถานี รถประจำทางคันที่คนขับติดเชื้อเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งนำผู้สัมผัสใกล้ชิดมาตรวจแล้ว จึงสามารถเดินทางได้ตามปกติแต่ต้องทำตามขั้นตอนกำหนดการควบคุมโรค ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากาก และล้างมือก่อนเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง

********ส่วนเรื่องการฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ งดไปฉลองกันนอกบ้าน ให้ฉลองกับครอบครัวที่บ้านเท่านั้น โดยให้เคาท์ดาวน์กันในบ้าน หรือชนแก้วกันทางออนไลน์ ส่วนเรื่องการเดินทาง เข้า-ออก จังหวัด ยังสามารถเดินทางเข้าออกได้ถ้าจำเป็น สำหรับแรงงานต่างด้าว ระหว่างนี้จะไม่ดำเนินการด้านกฎหมาย ยกเว้นการเคลื่อนย้ายแรงงาน ถ้าใครทำผิดจะมีบทลงโทษอย่างหนักตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย…..0000       ธนัญธร   รวงผึ้ง

GC ร่วมป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ มอบชุดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายทางการแพทย์ 11,750 ชุด ให้ 9 โรงพยาบาลรัฐ และ หน่วยงานราชการในจังหวัดระยอง

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 GC มอบชุดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายทางการแพทย์ ซึ่งประกอบไปด้วย เสื้อกาวน์จากเม็ดพลาสติก PE ชุด Coverall และ หมวกอัดอากาศป้องกันการติดเชื้อ (PAPR) จำนวน 11,750 ชุด เพื่อป้องกันและช่วยลดความเสี่ยงให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มาใช้บริการในโรงพยาบาล ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ให้แก่ 9 โรงพยาบาลรัฐ และ หน่วยงานราชการในจังหวัดระยอง ด้วยความห่วงใย โดยมี นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง..000

ธนัญธร รวงผึ้ง

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และเครือข่ายรักษ์ป่าชายเลนไทย ประกาศผลรางวัลการประกวดภาพถ่าย “ห้องเรียนธรรมชาติ ป่าชายเลนปากน้ำประแส” ภายใต้โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปกับการลดโลกร้อนและขยะทะเล ในการนี้มีผลงานจากนักท่องเที่ยว และช่างภาพทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพที่ส่งเข้าประกวดเกือบ 400 ภาพ โดยถ่ายทอดความงดงามของป่าชายเลนปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยองในมุมมองต่าง ๆ ซึ่งมีผู้ที่ได้รับรางวัล ดังนี้

ประเภทประชาชนทั่วไป

• รางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 25,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ คุณชาญวิทย์ อิสราสุวิภากร จากผลงานภาพชื่อ “วิถีชีวิต”
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ คุณสุวิมล ยืนยงค์ จากผลงานภาพชื่อ “ยามเย็น”                 
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 7,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ คุณธนกฤต สิงหกลางพล จากผลงานภาพชื่อ “นั่งเรือชมธรรมชาติ”
• รางวัลชมเชย จำนวน 20 รางวัล ได้รับของที่ระลึกจากโครงการฯ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

ประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษา

• รางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 25,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ คุณคณิน สอนสกุล จากผลงานภาพชื่อ “นกกินเปี้ยว”
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ คุณธนกฤต โสทนา จากผลงานภาพชื่อ “ต้นกล้า”                 
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 7,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ด.ญ. วชิญาพร ปาลาศ จากผลงานภาพชื่อ “ป่าชายเลนปากน้ำประแสในจินตนาการของหนู”
• รางวัลชมเชย จำนวน 10 รางวัล ได้รับของที่ระลึกจากโครงการฯ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance หรือ “ดาว และ เครือข่ายรักษ์ป่าชายเลนไทย” เป็นโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนโครงการแรกที่เน้นการปลูกและสร้างกลไกการดูแลอย่างยั่งยืนทั้งมิติทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ซึ่งดำเนินโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนในประเทศไทยมานานกว่า 12 ปี  ทั้งสามองค์กรได้ผนึกกำลังเดินหน้าแก้วิกฤตโลกร้อนและลดปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน โดยร่วมขับเคลื่อนโรดแมปยกระดับการอนุรักษ์ป่าชายเลนอ่าวไทย-อันดามันอย่างมีส่วนร่วม ครอบคลุม 5 จังหวัด รวม 5,000 ไร่ ตลอด 5 ปี ตั้งเป้าสร้างเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญของประเทศ พร้อมริเริ่มพัฒนากลไกทางการเงินจากคาร์บอนเครดิตเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ และเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ห้องเรียนธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีปากน้ำประแสเป็นพื้นที่แรกในการดำเนินโครงการก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ป่าชายเลนที่สำคัญในจังหวัดอื่น ๆ

เกณฑ์การตัดสินให้คะแนน ได้แก่ 1) การสร้างความรู้สึกให้อยากมาท่องเที่ยวที่ “ห้องเรียนธรรมชาติ ป่าชายเลนปากน้ำประแส” 2) ความสวยวามและการจัดองค์ประกอบของภาพ 3) ความคิดสร้างสรรค์และความแปลกใหม่ 4) ชื่อและคำบรรยายภาพถ่ายทอดความหมายของภาพได้น่าประทับใจ และ 5)   เทคนิคในการใช้ถ่ายภาพ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุติจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ เทศบาลตำบลปากน้ำประแส และชมรมถ่ายภาพกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ร่วมคัดเลือกและตัดสิน

ติดตามชมผลงานภาพที่ได้รับรางวัลทั้งหมดได้ที่ Dow Thailand Facebook https://www.facebook.com/DowThailandGroup/

ชมคลิปวีดีโอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ได้ที่

: ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเคล็ดลับการเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใน จ.ระยอง กว่า 120 คน ผ่านกิจกรรมที่สอดแทรกเกร็ดความรู้และวิธีการที่เป็นประโยชน์ในการนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้กับร้านค้าวิสาหกิจชุมชนของตนเอง เพื่อส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น เป็นการเสริมทักษะเพื่อช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs)

นอกจากนี้ ยังเปิดเวทีให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มาร่วมอบรม ได้แสดงความคิดเห็นในมุมมองต่าง ๆ ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้ยั่งยืนต่อไป

ธนัญธร รวงผึ้ง

พาณิชย์จังหวัดระยอง สุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ธ.ค. นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง นำเจ้าหน้าที่โดยการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง พาณิชย์จังหวัดระยอง สาธารณสุขจังหวัดระยอง ตำรวจภูธรระยอง สรรพสามิตพื้นที่ระยอง 1 และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดระยอง ออกสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ปลอดเหล้าและการแสดงฉลากสินค้าตามมาตรฐานอาหารและยาตามห้างสรรพสินค้าในจังหวัดระยอง ได้แก่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสระยอง ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ระยอง ศูนย์การค้าสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าระยอง แมคโครระยอง และห้างแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่นระยอง ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีเหล้าในชุดกระเช้าของขวัญ แสดงรายการสินค้ารายชิ้น สินค้าต้องไม่หมดอายุ ราคาเป็นธรรม และปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน

*********นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จังหวัดระยอง ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญให้เป็นไปตามแนวทางที่ที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย แสดงรายการสินค้ารายชิ้นชุดกระเช้าของขวัญ สินค้าต้องไม่หมดอายุ ราคาเป็นธรรม และปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน รวมทั้งไม่ใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในกระเช้าของขวัญ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค.

       ธนัญธร   รวงผึ้ง

น้องสตาร์ และพี่ ๆ SPRC ขนความรู้พร้อมความสนุก มอบแก่ น้อง ๆ โรงเรียนวัดตากวน

     บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) นำโดย คุณวิชัย ชุณหสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง พร้อมด้วยคุณพรทิพย์ วีระพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ และพนักงานจิตอาสารวมกว่า 50 คน จัดกิจกรรมพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ให้แก่น้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนวัดตากวน โดยมีคุณรุ่งนภา คำต่อ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดตากวน และคณะครูให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

     กิจกรรมนี้ประกอบด้วย การมอบสื่อการเรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์ และฐานเสริมสร้างความรู้ทั้ง 5 ฐาน ได้แก่ 1. ฐานความรู้และการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเกี่ยวโรคโควิด-19, 2. ฐานความรู้ด้านภาษาอังกฤษ, 3. ฐานสังคมออนไลน์ (Social Media) และคอมพิวเตอร์เบื้องต้นสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา, 4. ฐานรักการออม (Happy Money) และ 5. ฐานความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน และความปลอดภัยในวัยเรียน ให้กับน้อง ๆ นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 5 จำนวนกว่า 70 คน โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้คือ เพื่อให้ความรู้ในรูปแบบการเรียนรู้นอกจากตำรา เสริมสร้างทักษะการกล้าแสดงออกในด้านที่ดี ปลูกฝังเรื่องการออมเงิน อีกทั้งยังเป็นการมอบความสนุกสนานและแบ่งปันรอยยิ้มให้แก่น้อง ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทฯ โรงเรียน และชุมชน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ตระหนักดีถึงการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันแก่ผู้อื่น และการอยู่กับพี่ น้องในชุมชนรอบข้างร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องมี…000

ธนัญธร รวงผึ้ง

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง ชูร้านอาหารพื้นถิ่นที่รักษาสืบทอดเอกลักษณ์และเสน่ห์ของอาหารประจำจังหวัด หนุนสู่การท่องเที่ยวให้เกิดรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่

******เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่โรงแรมอักษร ต.สุนทรภู่ อ.แกลง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานมอบเกียรติบัตรร้านอาหาร ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง ที่ผ่านการอบรมภายใต้โครงการเส้นทางอาหารพื้นถิ่น เพื่อการท่องเที่ยว โครงการพัฒนาการท่องเที่ยว ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สู่การท่องเที่ยว 4.0 และกิจกรรมการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงสู่ความปกติวิถีใหม่จังหวัดระยอง จำนวน 30 แห่ง ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง มีนายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง และนางสาวเกตน์สิรี สมบูรณ์ศิลป์ รอง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง ร่วมงานฯ โดยโครงการดังกล่าว มีการอบรมพัฒนาทักษะอาหารเพื่อการท่องเที่ยวจากเชฟผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหาร รวมไปถึงการออกแบบและจัดทำหลักสูตร อาหารพื้นถิ่น โดยการนำวัตถุดิบท้องถิ่นที่ได้สำรวจและคัดเลือกจากพื้นที่จังหวัดระยอง และนำองค์ความรู้ด้านอาหารมาพัฒนาให้กลายเป็นเมนูอาหารพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถนำไปต่อยอดดำเนินการได้จริง

******นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มุ่งเน้นเป็นกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนและสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวหลังจากเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและสนับสนุนการประกอบอาชีพของชุมชน ผู้ประกอบการร้านอาหารในท้องถิ่น ในการรักษาสืบทอดอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรมอาหาร รวมทั้งเกิดการประชาสัมพันธ์บอกต่อแบบปากต่อปาก ต่อยอดอาหารด้วยเสน่ห์ของอาหารประจำจังหวัด พร้อมทั้งเพื่อให้เกิดเครือข่ายผู้ประกอบการร้านอาหารในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการร้านอาหารในชุมชน สร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงร้านอาหารในจังหวัดระยองอย่างทั่วถึงอีกด้วย…..0000

ธนัญธร รวงผึ้ง รายงาน / สริยา ภาพ

ระยอง ยันลูกเรือประมง 35 คน ที่มาจากสมุทรสาคร ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ พ่อเมืองวอนชาวระยองอย่าตื่นตระหนก ให้ตระหนักในการป้องกันตัว ไม่ประมาท และการ์ดอย่าตก

         เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 ธ.ค.ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมแถลงถึงสถานการณ์และมาตรการควบคุมการป้องกันโรคโควิด-19 กรณีการแพร่ระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีเรือประมง ก.โชคบุศราพรชัย 444 ของจังหวัดระยอง พร้อมลูกเรือ จำนวน 37 คน สัญชาติไทย 5 คน พม่า 30 คน และลาว 2 คน เดินทางจากเขื่อนกันคลื่นมหาชัย จ.สมุทรสาคร มาเทียบท่าที่แพปลาใน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 19ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังทราบข่าวทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่สอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างหาเชื้อจากลูกเรือ 35 คน ผลตรวจยืนยันเป็นลบ และให้ลูกเรือทั้งหมดกักตัวอยู่บนเรือ ส่วนลูกเรืออีก 2 คน ได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวแล้ว

           นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า มีประชาชนที่ได้รับทราบข่าวและประกาศของจังหวัดระยอง กรณีเดินทางไปตลาดเสี่ยงในจังหวัดสมุทรสาคร เข้ามารายงานตัวและขอคำปรึกษาทางโทรศัพท์ 53 ราย และมาขอตรวจที่โรงพยาบาลระยองเพิ่มอีก 10 ราย ผลตรวจหาเชื้อไม่พบ นอกจากนั้นมีประชาชนที่เดินทางไปตลาดกลางกุ้งมหาชัยจังหวัดสมุทรสาคร 2 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อแล้วผลตรวจไม่พบเชื้อเช่นกัน

อย่างไรก็ตามขอให้ชาวระยอง ได้ร่วมใจระวังและตื่นตัวกับสถานการณ์ตลอดเวลา การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19(ระบาดรอบใหม่)ขอให้ป้องกันตัวเอง อย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ตระหนักในการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากาก/ล้างมือ/เว้นระห่าง/ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ส่วนมาตรการที่เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ต้องรายงานตัวกับสาธารณสุขทุกคน เพื่อดำเนินการคัดกรองโรคป้องการการแพร่ระบาด

              ส่วนกรณีการจัดงานรื่นเริงต่างๆ โดยเฉพาะงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรืองานปีใหม่ที่จะจัดขึ้นนั้น ทางจังหวัดระยอง ขอเวลาประเมินสถานการณ์ตามที่ ศบค.ขอเวลาพิจารณาการแพร่ระบาดของโรค 7 วัน ว่าจะจัดได้หรือไม่ต่อไป.