Loading

เทศบาลนครระยอง ชวนย้อนอดีตและร่วมสืบสานประเพณีอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นกับงาน”ภูมิบุรี ศรีระยอง ครั้งที่ 15″

       เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 11 ธ.ค.ที่บริเวณถนนยมจินดา เมืองเก่าระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงาน”ภูมิบุรี ศรีระยอง ครั้งที่ 15″ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 12 ธันวาคมนี้ โดยเทศบาลนครระยอง และชมรมอนุรักษ์และฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง ภายในงานมีกิจกรรมที่ให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมย้อนอดีตและร่วมสืบสานประเพณีด้วยแต่งกายย้อนยุค

            นอกจากนี้ ยังมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมประเพณีบนเวที การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง-ลูกกรุง การประกวดภาษาถิ่นระยอง รวมทั้งมีนิทรรศการเมืองเก่าระยอง กิจกรรมลานวัฒนธรรม ลานชุมชน ลานเยาวชน การสาธิต-จำหน่ายอาหารพื้นเมือง และมีขบวนการแต่งกายย้อนยุคด้วย งานดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมไทยและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองระยอง ให้เด็กเยาวชนและประชาชนได้รำลึกและตระหนักถึงความเป็นไทยในอดีต อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย…..0000

                ธนัญธร   รวงผึ้ง

Loading

GC คว้าประเมินผลดัชนีชี้วัดความยั่งยืน CDP ในระดับ A สูงสุดในประเทศพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เป็นบริษัทไทยรายแรกและรายเดียว      ที่ได้รับผลการประเมินในระดับ A (Leadership Level) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการบริหารจัดการน้ำ (Water Security) ภายใต้กรอบการประเมินของสถาบันประเมินความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือระดับโลก Carbon Disclosure Project (CDP) ประจำปี 2563

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC เปิดเผยว่า GC มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานบนรากฐานของการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามเป้าประสงค์ของข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ตลอดถึงการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สะท้อนถึงการดำเนินงานที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

GC ตั้งเป้าหมายด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขต 1 และ 2) ลงร้อยละ 20 จากการดำเนินธุรกิจตามปกติภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2555) โดยมีการจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และมีแผนขยายขอบเขตการดำเนินงานสู่โซ่คุณค่า (ขอบเขต 3) อย่างบูรณาการ นอกจากนี้ยังมีการตั้งเป้าหมายด้านการบริหารจัดการน้ำ (Water Management) อย่างบูรณาการทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าว สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม สู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล

Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำคัญต่อโลก อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลออนไลน์ด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีนักลงทุนจำนวนมากให้ความเชื่อมั่นในข้อมูลของ CDP เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน โดย CDP มีการแบ่งผลการประเมินออกเป็น 8 ระดับ ตั้งแต่ A ถึง D- โดยค่าเฉลี่ยการประเมินองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย และค่าเฉลี่ยการประเมินกลุ่มเคมีภัณฑ์อยู่ที่ระดับ D ซึ่ง GC เป็นบริษัทไทยรายแรก และรายเดียวที่ได้รับผลการประเมินในระดับ A

                               ธนัญธร   รวงผึ้ง  รายงาน

Loading

BLCP ชวนท่องโลกเสมือนจริงกับศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานอาคารพลังงานเคียงสะเก็ด (KSEC 360 Virtual Gallery Tour) ตอบโจทย์วิถีชีวิต New Normal อย่างแท้จริง

       บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ชวนท่องโลกการเยี่ยมชมเสมือนจริงกับศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานอาคารพลังงานเคียงสะเก็ด (KSEC 360 Virtual Gallery Tour) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ. ระยอง ส่งต่อประสบการณ์เรียนรู้ด้านพลังงาน การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมกิจกรรมเด่นด้านการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร(CSR Activities) และรู้จักโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีแบบเข้าถึงด้วยการออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา เยาวชนและผู้สนใจ สามารถเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ฯ พร้อมศึกษาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินประเภทบิทูมินัสในการผลิตกระแสไฟฟ้ามานานกว่า 14 ปี 

        นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี กล่าวว่า ในช่วงที่หลายคนต้องอยู่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่เชื้อช่วยชาตินั้น การหากิจกรรมยามว่างเป็นสิ่งสำคัญ อย่างเช่น ทุกวันนี้เราจะเห็นว่า มีคนออกมาทำกิจกรรมชาเลนจ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ร้องเพลง ทำอาหาร เต้น เล่น TikTok รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า(COVID-19)      จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน ทดลองเข้าไปเรียนรู้กับนิทรรศการเสมือนจริงแบบ 360 องศา หรือ KSEC Virtual Gallery Tour (อาคารพลังงานเคียงสะเก็ด หรือ Kiang Saket Energy Center; KSEC) ที่เผยแพร่ข้อมูลด้านพลังงาน การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมเด่นๆ ด้านการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ซึ่งสามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา เพียงปลายนิ้วสัมผัส จะได้เห็นภาพเสมือนเดินทางไปชมด้วยตาตนเอง ทั้งยังเปิดประสบการณ์ เสริมสร้างการเรียนรู้ของเยาวชนและประชาชนทั่วไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมทั้งเป็นการแบ่งปัน แลกเปลี่ยน และเชื่อมโยงเรื่องราวที่น่าสนใจ จากสื่อหนึ่งไปสู่สื่ออื่นๆ อย่างไร้ขีดจำกัด     BLCP ตั้งใจสร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานนี้ขึ้นมา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ร่วมสร้างสังคมแห่งภูมิ

  ภายในอาคารพลังงานเคียงสะเก็ด(KSEC) แบ่งโซนนิทรรศการ ออกเป็น 4 โซนหลักๆ  ดังนี้

  1. โลกแห่งกาลเวลา (The World of Time) จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติการไฟฟ้าไทย การค้นพบสำคัญๆ ของนักวิทยาศาสตร์ด้านพลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และชุดทดลองมากมาย เช่น แบบจำลองกระแสไฟฟ้า 20,000 โวลต์  มุมทดสอบแบตเตอรี่ในตัวมนุษย์ และมุมการปั่นกระแสไฟฟ้าด้วยมือ เป็นต้น
  2. โลกของถ่านหิน (The World of Coal) จัดแสดงการกำเนิดของถ่านหินประเภทต่างๆ  และโซน Power Play Land แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบล้ำๆ  จากแผนนโยบาย Energy 4.0 จัดแสดงการดำเนินชีวิตของคนไทยในยุคดิจิทัล (AR kit) และจัดแสดงข้อดีและข้อจำกัดของโรงไฟฟ้าแต่ละประเภท
  3. โลกของบีแอลซีพี (The World of BLCP) แสดงการก่อสร้างและแบบจำลองโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี  เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด และมุมจัดแสดงวีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าในขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ
  4. โลกสดใสชุมชนสุขใจ (Land of Sustainable Growth) แสดงการดำเนินงานด้านการมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร ในรูปแบบ Touch Wall จำลองบรรยากาศ 360 องศา การประยุกต์ใช้ BCG Model ในโครงการชุมชนสัมพันธ์ มุมเล่นเกมใน “Rayong Ecotopia” และ Interactive Game และจำลองเป็นบุคคลที่ประกอบอาชีพในจังหวัดระยอง ในโซน “Rayong People”

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเวบไซต์ www.blcp.co.th  (การเยี่ยมชม ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ …..00000

                       ธนัญธร   รวงผึ้ง   รายงาน

Loading

         รถเก๋งพุ่งชนท้ายรถกระบะแฉลบชนรถจักรยานยนต์จอดอยู่ริมทางหน้า รพ.ระยอง กวาดเรียบ 34 คัน ล้มพังระเนระนาด

*** เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 8 ธ.ค. ร.ต.ท.ปริญญา ใจเที่ยง ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนรถกระบะแล้วแฉลบไปชนรถจักรยานยนต์ จำนวน 34 คัน จนล้มระเนระนาดพังยับ ที่หน้ารพ.ระยอง ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล และพร้อมด้วยกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

 ** เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอชอาร์วี ทะเบียน ขท5729 ระยอง สภาพคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า กลางถนนพบรถกระบะสี่ประตูสีขาว ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียนป้ายแดง ภ-7357 กทม. จอดอยู่ในสภาพกระบะด้านข้างพังทั้งแถบนอกจากนี้ ที่ริมถนนพบรถจักรยานยนต์ล้มระเนระนาด พังเสียหาย จำนวน 34 คัน 

เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์เก๋งฮอนด้ารุ่น เฮชอาร์วีสีดำหมายเลขทะเบียน ขท – 5729 ระยอง มีนาย สหรัฐ  รัตนวิจิตร อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 29/1 ม.1 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยองเป็นคนขับ มีนาย ณัฐวัฒน์  รัตนวิจิตร อายุ 23 ปี นั่งมาด้านข้างคนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย ทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน     รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซุรุ่นดีแมคสีขาวแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง เลขทะเบียน ก – 7357 กทม.มีนายอดิพันธ์  อิ่มหมื่นไวย์ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 12 ม.13 ต.ปรางมะค่า อ.ขาณวรลักษ์บุรี จ.กำแพงเพชร เป็นคนขับ มี นส.สดสี  สีสะทาน อายุ 44 ปี ภรรยา นั่งมาด้านข้างคนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย

  ********เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า รถทั้ง 2 คันขับมาทางเดียวกัน เลยแยก รพ.ระยอง  รถยนต์กระบะวิ่งอยู่ด้านหน้าเปิดไฟเลี้ยวซ้าย   ส่วนรถยนต์เฮชอาร์วีขับมาด้วยความเร็วผ่านไฟแดงแล้วพุ่งชนท้ายรถกระบะ และเสียหลักไปชนรถจยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า รพ.ระยองจำนวน 34 คันได้รับความเสียหาย สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์เฮชอาร์วี คนขับชื่อ นายสหรัฐ รัตนวิจิตร อายุ 23 ปี หลังตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ มีค่าสูงถึง 149 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่ากฎหมายกำหนด ที่ไม่ให้เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหา  ขับรถในขณะเมาสุรา และ ฝ่าสัญญาณไฟจราจร เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนความเสียหาย ทางรถของผู้กระทำผิดมีประกันประเภทหนึ่ง รับใช้เฉพาะความเสียหายในทรัพย์สินของคู่กรณี ส่วนทรัพย์สินของผู้กระทำผิดรับผิดชอบเอง ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบความเสียหายของ รถ จยย.34 คัน และ รถยนต์กระบะสี่ประตูที่ถูกชน เพื่อประเมินค่าความเสียหาย ให้กับทางบริษัทประกันภัย รับผิดชอบค่าเสียหายต่อไป  สำหรับ นายสหรัฐ รัตนวิจิตร อายุ 21 ปี คนขับรถเฮชอาร์วี เป็นอดีตนักฟุตบอล ทีมชาติไทย ชุดU18  ตำแหน่งกองกลาง  ปัจจุบันเป็นนักฟุตบอลตำแหน่งกองกลาง ของ สโมสรราชนาวี และนายณัฐวัฒน์ รัตนวิจิตร อายุ 23 ปี พี่ชาย เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U18 เช่นกัน   ล่าสุดได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัววออกไปแล้ว

        รังสรรค์  ขวัญดี   ภาพ/ข่าว             ธนัญธร   รวงผึ้ง  รายงาน

Loading

     GC Group ร่วมจัดกิจกรรม “โครงการลานคนเมือง และตลาดนัดชุมชนถนนคนเดิน เทศบาลเมืองบ้านฉาง

ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า นำร่องการบริหารจัดการขยะอย่างมีส่วนร่วม

           คุณสุภาวดี สิทธินันทน์ ผู้จัดการส่วน หน่วยงานชุมชนสัมพันธ์ พื้นที่ 2 ร่วมกิจกรรม โครงการลานคนเมือง และตลาดนัดชุมชนถนนคนเดิน เทศบาลเมืองบ้านฉาง โดยมี คุณไพโรจน์ เรืองธุระกิจ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านฉาง เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ณ สวนสุขภาพเทศบาลเมืองบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

        โครงการลานคนเมือง และตลาดนัดชุมชนถนนคนเดิน เทศบาลเมืองบ้านฉาง จัดโดยเทศบาลเมืองบ้านฉางและคณะกรรมการตลาดนัด โดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี และบริษัทในกลุ่ม
ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมสนับสนุนให้ชาวบ้านฉางมีไลฟ์สไตล์แบบ GC Circular Living โดยการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และส่งเสริมการบริหารจัดการขยะอย่างมีส่วนร่วม ภายใต้แนวคิด ลด เปลี่ยน แยก คือ ลดการใช้แบบครั้งเดียว เปลี่ยนใจมาใช้ซ้ำ และ แยกขยะให้ถูกประเภท พร้อมทั้ง ส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางของผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดนัดชุมชนและผู้ร่วมงานได้คัดแยกขยะที่จุดทิ้งขยะ 7 ประเภท ได้แก่ ขวดพลาสติกใส ขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียม ขยะรีไซเคิลอื่นๆ จุดเทน้ำทิ้ง เศษอาหาร เศษผักผลไม้ และขยะปนเปื้อนทั่วไป เพื่อนำขยะไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี และสามารถนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างอาชีพและรายได้หมุนเวียนให้แก่ชาวระยอง   นอกจากนี้ จีซี ยังได้มีการจัดนิทรรศการ GC Circular Living จัดแสดงผลิตภัณฑ์จากขยะพลาสติก และตกแต่งสถานที่ด้วยผลิตภัณฑ์ Bioplastic หรือ พลาสติกที่ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกทดแทนผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงการจัดจุดบริการ “ถุงปันสุข” เพื่อส่งเสริมการใช้ซ้ำ และลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

          ไฮไลต์ของงานคือ การจัดแสดงต้นคริสต์มาสจากกล่องใส่ซีดีเหลือใช้ เพื่อส่งมอบความสุขเนื่องในเทศกาลปีใหม่สไตล์ GC Circular Living สะท้อนถึงการนำวัสดุสิ่งของที่เคยมีค่ากลับมาใช้ใหม่ เป็นการสร้างคุณค่าให้ขยะเหลือใช้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการจัดงานจะมีการรวบรวมขวดพลาสติกทั้งหมดเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการอัพไซเคิล แปรรูปด้วยนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าเป็นจีวรรีไซเคิลถวายให้แก่วัดในจังหวัดระยองต่อไป

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจีจัดกิจกรรมผ้าป่ารีไซเคิล ประจำปี 2563 ณ วัดมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รู้ค่าทรัพยากร ดึงชุมชนร่วมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางผ่านงานประเพณีท้องถิ่น ด้วยแนวคิดการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นบุญ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาขยะในระดับท้องถิ่นนำไปสู่สภาวะการลดโลกร้อน

         ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ร่วมกับ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนชุมชนมาบตาพุดร่วมใจ จำกัด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเทศบาลมาบตาพุด จัดกิจกรรมผ้าป่ารีไซเคิล ขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างการตระหนักรู้เพิ่มมูลค่าจากขยะ ภายใต้โครงการชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ ผ่านแนวคิดใช้ให้คุ้ม แยกให้เป็น ทิ้งให้ถูก เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการคัดแยกขยะตั้งแต่ตั้นทาง ด้วยการเปลี่ยนขยะที่ทุกคนมองว่าไร้ค่าให้กลายเป็นบุญ นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการทำความดีเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน โดยมีนายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุดเป็นประธานในพิธี

                  นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มตัวแทนเยาวชน จากโรงเรียนบ้านมาตาพุด และตัวแทนอสม. จ.ระยอง ร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์โดยนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ตกแต่งสร้างความสนใจแก่ชุมชนโดยรอบเป็นอย่างมาก พร้อมเดินสายรับขยะรีไซเคิลและของเหลือใช้ตามบ้านเรือนเพื่อร่วมทอดผ้าป่ารีไซเคิลในครั้งนี้ โดยรับของเหลือใช้ประเภทต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ฟ้า และขยะรีไซเคิล ได้แก่ พลาสติก ไม้ แก้ว โลหะ โดยใช้แอปพลิเคชัน ‘คุ้มค่า’ ดิจิทัลโซลูชันเพื่อการจัดการขยะอย่างครบวงจร มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจดบันทึกการซื้อ-ขาย ตรวจเช็กข้อมูลได้ทันที ซึ่งสามารถรวบรวมปริมาณขยะได้เป็นจำนวน 4,652 กิโลกรัม เป็นการช่วยลดขยะที่จะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมกับช่วยลดปัญหาสภาวะโลกร้อนจากการเผาขยะ โดยขยะเหล่านี้จะถูกส่งไปขายให้กับวิสาหกิจชุมชนแยกขยะเนินพยอม และวิสาหกิจชุมชนมาบชลูด-ชากกลาง เพื่อส่งเสริมระบบการรีไซเคิลภายในชุมชน และรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับวัดมาบตาพุดเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้กับท้องถิ่น….0000

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

        ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจีจัดกิจกรรมผ้าป่ารีไซเคิล ประจำปี 2563 ณ วัดมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รู้ค่าทรัพยากร ดึงชุมชนร่วมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางผ่านงานประเพณีท้องถิ่น ด้วยแนวคิดการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นบุญ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาขยะในระดับท้องถิ่นนำไปสู่การลดปัญหาสภาวะโลกร้อน

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ร่วมกับ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนชุมชนมาบตาพุดร่วมใจ จำกัด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเทศบาลมาบตาพุด จัดกิจกรรมผ้าป่ารีไซเคิล ขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างการตระหนักรู้เพิ่มมูลค่าจากขยะ ภายใต้โครงการชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ ผ่านแนวคิดใช้ให้คุ้ม แยกให้เป็น ทิ้งให้ถูก เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการเปลี่ยนขยะที่ทุกคนมองว่าไร้ค่าให้กลายเป็นบุญ นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการทำความดีเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน โดยมีนายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด เป็นประธานในพิธี


       นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มตัวแทนเยาวชน จากโรงเรียนบ้านมาตาพุด และตัวแทนอสม. จ.ระยอง ร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์โดยนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ตกแต่งสร้างความสนใจแก่ชุมชนโดยรอบเป็นอย่างมาก พร้อมเดินสายรับขยะรีไซเคิลและของเหลือใช้ตามบ้านเรือนเพื่อร่วมทอดผ้าป่ารีไซเคิลในครั้งนี้ โดยรับของเหลือใช้ประเภทต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ฟ้า และขยะรีไซเคิล ได้แก่ พลาสติก ไม้ แก้ว โลหะ โดยใช้แอปพลิเคชัน ‘คุ้มค่า’ ดิจิทัลโซลูชันเพื่อการจัดการขยะอย่างครบวงจร มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจดบันทึกการซื้อ-ขาย ตรวจเช็กข้อมูลได้ทันที ซึ่งสามารถรวบรวมปริมาณขยะได้เป็นจำนวน 4,652 กิโลกรัม เป็นการช่วยลดขยะที่จะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมกับช่วยลดปัญหาสภาวะโลกร้อนจากการเผาขยะ โดยขยะเหล่านี้จะถูกส่งไปขายให้กับวิสาหกิจชุมชนแยกขยะเนินพยอม และวิสาหกิจชุมชนมาบชลูด-ชากกลาง เพื่อส่งเสริมระบบการรีไซเคิลภายในชุมชน และรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับวัดมาบตาพุดเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้กับท้องถิ่น…..00000

            ธนัญธร   รวงผึ้ง

Loading

         เทศกาลเที่ยวทะเลหาดบ้านเพ-เกาะเสม็ด ครั้งที่ 20ปีนี้จัดใหญ่จัดเต็ม ถึง 10 ธ.ค. ที่บริเวณท่าเทียบเรือเทศบาลบ้านเพ

           เมื่อเวลา 18.00น.ของวันที่ 6 ธ.ค. นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง  พร้อมด้วยนายไพรัตน์     อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ ร่วมเปิดงาน”เทศกาลเที่ยวทะเลหาดบ้านเพ เกาะเสม็ด ครั้งที่ 20 ณ ชายหาดท่าเทียบเรือเทศบาลบ้านเพ ปีนี้จัดใหญ่ จัด เต็ม ตลอดการจัดงาน 6-10 ธ.ค. 63  บริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ ขนทัพร้านค้า อาหารทะเล และคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ชี้ช่วยดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่    

             นายไพรัตน์    อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า  การจัดงาน “เทศกาลเที่ยวทะเลหาดบ้านเพ-เกาะเสม็ด ครั้งที่ 20”  (Banphe & Samed Island Annual Festival 20th) ขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 10 ธันวาคม 2563  ณ บริเวณท่าเทียบเรือและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนา และยกระดับร้านค้า ร้านอาหารทะเลสด อาหารท้องถิ่น  ให้เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงการกระตุ้นประชาชนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล  การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลที่ยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพและมาตรฐาน  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างรายได้และภาพลักษณ์การท่องเที่ยว 

        ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหลากหลายเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืนอย่างเต็มอิ่มตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน 5 คืน เช่น การชิม ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ อาหารถิ่นพื้นบ้านจากร้านอาหารชื่อดังทั้งของบ้านเพและจังหวัดระยอง รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าโอทอปชื่อดัง ของดีของฝากเมืองระยองนานาชนิด  กิจกรรมอนุรักษ์ทะเล กิจกรรมแลกขยะ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเพลิดเพลินกับการนั่งรถรางเที่ยวชมเมือง โดยรับรองว่าจะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนได้ตามวัตถุประสงค์”

ที่สำคัญยังจะได้สนุกสนานกับการแสดงของชุมชนต่างๆ ของบ้านเพ และความบันเทิงกับมหกรรมฟรีคอนเสริต์จากศิลปินชื่อดัง โดยคืนแรก วันที่ 6 ธ.ค. พบกับ จ๊ะ อาร์สยาม วันที่ 7 ธ.ค. พบกับ ศิลปินวง L.กฮ. วันที่ 8 ธ.ค. พบกับวงโปเตโต้ วันที่ 9 ธ.ค.พบกับวง ค็อกเทล  และ วันที่ 10 ธ.ค. พบกับ ดา เอ็นโดรฟิน เป็นต้น 

สำหรับมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน ทางเจ้าหน้าที่และทีมงานได้มีการวางแผนการป้องกันและควบคุมการระบาด ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างรัดกุม ทุกคนที่มางานจะต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคน  มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ/ วัดไข้ทุกจุดเข้างาน เมื่อผ่านแล้วจะได้รับสติ๊กเกอร์ติดที่เสื้อ ทุกคนที่เข้างานต้องสแกนแอพ “ไทยชนะ”  หรือ เซ็นต์ชื่อไว้ในสมุดบันทึกที่หน้างานทุกคน รวมถึงมีบริการแอลกอฮอล์เจล ในบริเวณทางเข้างานทุกจุด และในจุดที่นั่งรับประทานอาหาร และดูคอนเสิร์ต มีการจัดโต๊ะเก้าอี้ แบบเว้นระยะห่าง  ส่วนในมาตรการส่วนของร้านค้า ได้ขอความร่วมมือให้มีการติดตั้งพลาสติกใสกั้น หรือคลุมอาหารระหว่างแม่ค้าและผู้ซื้อ   และมีเจ้าหน้าที่ด้านสุขอนามัยตรวจสอบความสด สะอาดของอาหาร ตามร้านค้าทุกวันจัดงาน

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

         จ.ระยอง เปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร บรมนาถบพิตร

         เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2563 ที่บริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำดอกกราย ภายในศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2563 มีข้าราชการ ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ทั้งนี้ จิตอาสาได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาลงแหล่งน้ำ เก็บขยะรอบสันเขื่อน และทาสีเสาปูนสัญลักษณ์จราจรริมเขื่อน เพื่อให้มองเห็นชัดเจน เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่มาเที่ยวชม

      ทั้งนี้ กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี รวมทั้งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ประจำปี 2563.

ธนัญธร รวงผึ้ง

Loading

จังหวัดระยอง จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. 2563 ที่บริเวณพิธี สวนศรีเมือง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานนำข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดระยองทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2563 พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้นำวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกล่าวถวายราชสดุดี เพื่อแสดงซึ่งความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด

ธนัญธร รวงผึ้ง